นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการไตรมาส 3/65 จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ แม้ว่าครึ่งปีแรกจะมีผลขาดทุนสุทธิ 15.72 ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้บริษัทปรับสัดส่วนการขายเหล็กจากภาคเกษตร มาเป็นการขายให้กับงานโครงการมากขึ้น โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ หลังจากเริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของอุตสาหกรรมดังกล่าว เพื่อรักษาอัตรากำไร ขณะที่ภาคเกษตรชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ
อีกทั้งบริษัทยังเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ ท่อประปา ซึ่งคาดว่าจะเข้ามารองรับความต้องการจากลูกค้ากลุ่มเดิมที่มีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัทจึงเน้นขยายช่องทางจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์ มากกว่าการขยายช่องทางขายในรูปแบบเฟรนไชส์
ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) มูลค่า 500-600 ล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดในครึ่งปีหลังนี้ ดังนั้น บริษัทจึงคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ที่จะเติบโตราว 15-30% จากการมุ่งมั่นพัฒนาและเพิ่มมูลค่าสินค้าในรูปแบบทั้ง Steel และ Non steel และสร้างแบรนด์ใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะให้ความสำคัญกับตลาด Niche Market
ส่วนธุรกิจด้านเทคโนโนโลยี หรือการทำเหมืองขุดบิทคอยน์ ปัจจุบันบริษัทได้หยุดเดินเครื่องขุดบิทคอยน์ชั่วคราว จากความผันผวนของราคาเหรียญบิทคอยน์ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ไม่คุ้มกับค่าไฟ พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์มาเป็นการซื้อเหรียญบิทคอยน์เข้ามาแทนในช่วงที่ราคาเหรียญบิทคอยน์อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งมีการซื้อมาแล้ว 3 BTC ในไตรมาส 2/65
ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีเครื่องขุดบิทคอยน์ จำนวน 400 เครื่อง เทียบเท่า 41,600 TH/s โดยมีเหรียญบิทคอยน์แล้วทั้งสิ้น 20 BTC ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้บริษัทจะมีการพิจารณาขายเหรียญออกมาประมาณ 4-5 BTC เพื่อทดลองระบบบันทึกบัญชี
ด้านความคืบหน้าการออกเหรียญดิจิทัล (Digital Token) และผลิตเกมที่จะนำเหรียญดิจิทัลไปสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมไปถึงการสร้างและออกเหรียญ NFT นั้น บริษัทยืนยันว่ายังคงเกินหน้าตามแผนที่วางไว้ ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในครึ่งปีหลังนี้