ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิเอเชียวันนี้เปิดมาส่วนใหญ่แกว่งตัวขึ้น ขานรับกับตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP ไตรมาส 2/65 ของสหรัฐฯออกมาดีกว่าประมาณการครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม ยังมองว่ายังพอมีปัจจัยหนุนจากแรงซื้อของเม็ดเงินต่างชาติเข้ามาหนุนตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง ทำให้ช่วยผลักดันการปรับตัวขึ้นของดัชนี
พร้อมให้แนวต้าน 1,650- 1,660 จุด แนวรับ 1,625-1,635 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (25 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 33,291.78 จุด พุ่งขึ้น 322.55 จุด หรือ +0.98%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,199.12 จุด เพิ่มขึ้น 58.35 จุด หรือ +1.41% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,639.27 จุด พุ่งขึ้น 207.74 จุด หรือ +1.67%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,639.47 จุด เพิ่มขึ้น 160.46 จุด หรือ +0.56%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,138.69 จุด เพิ่มขึ้น 170.31 จุด หรือ +0.85% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,250.63 จุด ลดลง 4.38 จุด หรือ -0.13%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ส.ค.65.) ที่ระดับ 1,643.52 จุด เพิ่มขึ้น 11.97 จุด, +0.73%
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,893.59 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ส.ค.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.(25 ส.ค.) ร่วงลง 2.37 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 92.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ส.ค.) อยู่ที่ 13.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.87 คาดกรอบวันนี้ 35.80-35.95 ตลาดจับตาสุนทรพจน์ปธ.เฟดเป็นหลัก
- ผลสำรวจ ม.หอการค้าไทย พบปี 65 หนี้ครัวเรือนไทยพุ่ง 5 แสนบาท สูงสุดรอบ 16 ปี ส่วนใหญ่กู้มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หลังค่าครองชีพสูง รายได้หด แต่ไม่น่าห่วง ส่วนใหญ่เป็นหนี้ในระบบ มีทรัพย์สินค้ำประกัน แต่มูลหนี้ที่สูงอาจทำให้เศรษฐกิจโตไม่โดดเด่น ขณะที่หนี้ครัวเรือนไทยต่อจีดีพีลดลงมาพ้นจุดสูงสุดที่ 90% ของจีดีพีแล้ว
- ส.อ.ท.ปรับลดประมาณการณ์ผลิตรถยนต์ปี 65 ลง 5 หมื่นคัน เหลือ 1.75 ล้านคัน เซ่นชิปขาดแคลน หั่นเป้าส่งออกแค่ 9 แสนคัน ขยับยอดขายในประเทศ 8.5 แสนคัน รับเศรษฐกิจโตดีจากหลายปัจจัย เปิดประเทศต่างชาติเข้าไทยต่อเนื่อง รายได้เกษตรดี มาตรการรัฐกระตุ้นคนไทยใช้จ่าย
- "คลัง" ปลื้ม R&I คงอันดับความน่าเชื่อถือประเทศไทยที่ระดับ A- และคงมุมมองความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับมีเสถียรภาพ มองท่องเที่ยวคึกคักช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว จับตาผลกระทบทางการเมือง
- นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า เพื่อเตรียมรับฤดูท่องเที่ยวตั้งแต่ต.ค.2565-ต้นปี 2566 จะเร่งอนุมัติงบประมาณ 1,000 ล้านบาท ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำไปใช้ขับเคลื่อนกลยุทธ์ "บูสเตอร์ช็อต" การท่องเที่ยว ทั้งตลาดในและต่างประเทศ เพื่อให้ได้เป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 7-10 ล้านคน และคนไทยเที่ยวในประเทศ 160 ล้านคน ในช่วงที่เหลือของปี 2565
- CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 74.34 บาท คาดกำไรไตรมาส 3/65 อาจทรงถึงปรับขึ้น Q-Q ได้ แม้ถูกกระทบจากปัจจัยฤดูกาลและการซื้อคืนหุ้นกู้ชั่วนิรันดร์เป็นหุ้นกู้ปกติซึ่งอาจมีการบันทึกดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มเติมชั่วคราว แต่ระยะยาวเป็นบวกจากอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่ลดลง โมเมนตัมกำไรไตรมาส 4/65 -2566 คาดเร่งตัวอย่างมีนัยยะจากทั้ง CVS และลูกอย่าง MAKRO ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และเริ่มได้อานิสงส์จาก High Season ของภาคการท่องเที่ยว ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเรามองเป็นบวก Consensus คาดกำไรปี 2565-2566 +15% Y-Y และ +38% Y-Y ตามลำดับ กลับไปใกล้เคียงก่อน COVID-19
- CPN (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 72.75 บาท ปัจจัยบวกจากการคลายล็อกดาวน์และเปิดประเทศ หนุนปริมาณ Traffic กลับเข้าสู่ระดับปกติ นอกจากนี้ยังรับรู้รายได้จากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2 แห่ง ได้แก่เซ็นทรัลอยุธยาและเซ็นทรัลศรีราชาเต็มปี และในปี 65 บริษัทเปิดเซ็นทรัลจันทบุรีเพิ่มอีก 1 โครงการ สำหรับกำไรปกติปี 65 ตลาดคาดอยู่ที่ราว 9.5 พันล้านบาท EPS 2.12 บาท/หุ้น เติบโตราว 33%YoY ทั้งนี้บริษัทยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งรองรับการขยายธุรกิจ โดยจะเปิดศูนย์การค้าใหม่ Central Westville ราชพฤกษ์ในช่วงไตรมาส 4/66 ส่วนโครงการใหญ่อย่างดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค จะทยอยเปิดในปี 67 นอกจากนี้ยังประกาศแผนการลงทุนเพิ่มเติม เช่น เซ็นทรัลนครสวรรค์ และเซ็นทรัลนครปฐม เสร็จในปี 68 ตามลำดับ
- WICE (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 15.50 บาท จีนทยอยทำ Stimulus Package ที่ 1.46 แสนล้าน USD กระตุ้นเศรษฐกิจองค์รวม และจะทำให้การขนส่งในและระหว่างประเทศฟื้น คาดธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศ Cross boarder ของ WICE จะฟื้นตัวเด่นล้อไปกับเศรษฐกิจจีน ลุ้นกำไร 2H22 เติบโตต่อ HoH , DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 653 ลบ. และ 745 ลบ. +22%YoY, +14%YoY ตามลำดับ