นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้ บริษัท เซ็ปเป้ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SAPPE เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด (THB) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ. เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK)
SAPPE และ WORK จะร่วมลงทุนในบริษัทร่วมทุนชื่อ บริษัท โวป จำกัด (WOPE Co.,Ltd.) เพื่อพัฒนา ผลิต ทำการตลาด และจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มผ่านนวัตกรรมและการสื่อสารที่โดนใจผู้บริโภค โดย Sappe Holding เข้าถือหุ้นใน WOPE เป็นสัดส่วน 60% ใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดภายในกิจการ ขณะที่ THB ถือหุ้นในสัดส่วน 40% คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 50 ล้านบาท
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการเพิ่มกลุ่มสินค้าใหม่ๆ ที่มีความแตกต่างออกไปจากกลุ่มสินค้าเดิมของ SAPPE ซึ่งจะช่วยสร้างความแปลกใหม่ให้แก่ตลาด และยังเป็นการขยาย Portfolio โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้จากบริษัทร่วมทุนดังกล่าว 200 ล้านบาทภายในปี 66 จะเริ่มทยอยออกสินค้ากลุ่มแรกไม่ต่ำกว่า 2 รายการราวปลายปีนี้หรืออย่างช้าต้นปี 66 อาทิ กาแฟ เป็นต้น ซึ่งจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางเป็นหลัก
นางสาวปิยจิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดเครื่องดื่มที่กลับมาฟื้นตัวได้ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลีงประเทศไทยเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาเพิ่มมาดขึ้น และไม่มีการใช้มาตรการปิดเมือง (Lockdown) เหมือนในปี 64 ที่ผ่านมา
"การหา Business Partnership ที่มีศักยภาพ คือหนึ่งใน Innovation Strategy ที่เราดำเนินงานมาโดยตลอด และด้วยความแข็งแกร่งของ Business Partners คุณภาพที่เรามีอยู่ทั่วโลก แม้ในช่วงสถานการณ์ที่ท้าทายต่างๆ เรายังสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง การจับมือกับเวิร์คพอยท์ในครั้งนี้ จึงนับเป็นการเสริมความแข็งแกร่งของ Partners ขึ้นมาอีกขั้น ทีมงาน SAPPE รู้สึกภูมิใจทุกครั้งเมื่อมี Business Partners ใหม่ๆ เข้ามาร่วมกันคิดสร้างสรรค์ผลงานเจ๋งๆ โดยเฉพาะครั้งนี้ เป็นทีมงานคนเก่ง ที่อยู่นอกวงการอาหารเครื่องดื่มที่เราชื่นชมไอเดียและความคิดสร้างสรรค์มาตลอดอยู่แล้วด้วย" นางสาวปิยจิต กล่าว
ด้านนายธนศักดิ์ หุ่นอารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ WORK เปิดเผยว่า ความสำเร็จของ "ลูกอมครูเพ็ญศรี" ที่ออกสู่ตลาดเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของ WORK ที่นำจุดแข็งของ Character Asset ครูเพ็ญศรี จากซิทคอม "หกฉากครับจารย์" ที่ออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 มาต่อยอดในธุรกิจไลน์ใหม่อย่างขนมขบเคี้ยว ทำให้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่สามารถเติบโตได้อีกมากในตลาดอาหารและเครื่องดื่ม จึงร่วมลงทุนใน WOPE เพื่อต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ของทั้ง 2 องค์กรให้สนุกมากขึ้น โดยมีแผนออกสินค้าใหม่ตัวแรกของ WOPE ในไตรมาส 4 ปีนี้ "จุดแข็งของเวิร์คพอยท์ คือการมีรายการที่ดี มีช่องทางสื่อสารครอบคลุมในทุก Platform ทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ สามารถเข้าถึงคนทุกเพศทุกวัย ครอบคลุมทั่วประเทศ ในขณะที่ SAPPE มีความเชี่ยวชาญในการผลิตผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เป็นนวัตกรรมและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ด้วยศักยภาพของทั้ง 2 บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญที่ต่างกัน เชื่อว่าการจับมือกันในครั้งนี้จะสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจให้ผู้บริโภคได้มากกว่าเดิม" นายอดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ รองประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร SAPPE กล่าวว่า การดำเนินงานภายใต้ WOPE จากนี้ SAPPE จะดูแลเรื่อง Innovation ของสินค้าตลอดทั้ง Supply Chain เพื่อให้ได้สินค้าที่แปลก แตกต่าง และส่งมอบให้ลูกค้าทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศ CLMV โดยในอนาคตอาจขยายไปในกลุ่มลูกค้าของ SAPPE ประเทศอื่นๆ หากผลิตภัณฑ์ใดสามารถตอบโจทย์ประเทศนั้นๆ ด้วย ในขณะที่เวิร์คพอยท์ ดูแลเรื่องการสื่อสารและการตลาด ให้ไปถึงกลุ่มลูกค้าและเพิ่มความน่าสนใจในผลิตภัณฑ์ผ่านเครื่องมือต่างๆ ที่เวิร์คพอยท์มี นับเป็นการต่อยอดความเชี่ยวชาญและเรียนรู้ซึ่งกันและกันไปด้วย
"เราพยายามเอา Asset ของเวิร์คพอยท์มาต่อยอด เช่น อะไรที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว อย่างครูเพ็ญศรี มาใช้สื่อสารตัวสินค้า หรือสินค้าอาจจะมีการใส่ Creativity ที่มาจากทางเวิร์คพอยท์เข้าไปด้วย รวมถึงการใช้นักแสดงในสังกัดเวิร์คพอยท์มาสร้างความสนุก สร้างสีสันให้กับสินค้า เพิ่มความบันเทิงให้กับกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เป็นการสื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า ?Eatertainment? ให้ลูกค้าได้เสพความบันเทิงของเวิร์คพอยท์ ผ่านสินค้านวัตกรรมคุณภาพที่สร้างสรรค์โดยเซ็ปเป้"
สำหรับลูกอมครูเพ็ญศรีวางจำหน่ายมาได้ราว 1 ปี มีกระแสตอบรับที่ดีต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น 7-11 ที่ยอดขายอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่งผลให้ยอดขายลูกอมครูเพ็ญศรีทำได้ตามเป้าหมายราว 40 ล้านบาท