เจ.พี. มอร์แกนออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants: DW) ที่อ้างอิง MSCI China A 50 Connect Index จำนวน 2 รุ่น เป็นผู้ออกรายแรกในประเทศไทยที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ที่มีการลงทุนตามดัชนีหลักทรัพย์ เอ แชร์ (A-Share Index) ของประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในโลก ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ใหม่นี้จะเริ่มทำการซื้อขายบนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 30 สิงหาคมนี้
นับตั้งแต่ต้นปี ตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น นโยบายการเงินของธนาคารกลางที่เริ่มตึงตัวขึ้น ภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูง และความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ โดยที่ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง ควบคู่ไปกับนโยบายการคลังด้านอื่น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับการเติบโตของอุตสาหกรรมในสาขาต่างๆ
นายอาจดนัย มาร์โค สุจริตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสประจำประเทศไทยของเจ. พี. มอร์แกน กล่าวว่า การเปิดตัวใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ MSCI China A 50 Connect Index สร้างโอกาสใหม่สำหรับนักลงทุนโดยเพิ่มทางเลือกในการเข้าถึงตลาดเอ แชร์ การกระจายการลงทุนที่หลากหลายของดัชนีนี้ทำให้นักลงทุนมีโอกาสเข้าลงทุนในตลาดเอ แชร์ และเป็นเครื่องมือใหม่ในการป้องกันความเสี่ยงให้พอร์ตการลงทุน
นายเซ็น เหว่ย กรรมการผู้จัดการใหญ่ APAC Index Solutions Research ของ MSCI กล่าวว่า MSCI China A 50 Connect Index ได้รับการออกแบบให้ครอบคลุมการลงทุนในหลักทรัพย์ เอ แชร์ ของจีนที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุด 50 อันดับแรก และคำนึงถึงการกระจายหมวดธุรกิจที่หลากหลาย โดยตั้งแต่เริ่มเผยแพร่ดัชนีในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564 เราเห็นนักลงทุนจำนวนมากใช้ดัชนีนี้เป็นนวัตกรรมเครื่องมือที่ช่วยสร้างการเข้าถึงและบริหารความเสี่ยงในตลาด เอ แชร์ ของจีน
ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์อ้างอิงดัชนี MSCI China A 50 Connect ที่จะออกจำหน่ายเป็นครั้งแรกนี้มีราคาใช้สิทธิที่ 1,900 ถึง 2,800 จุด ซึ่งคิดเป็นอัตราทดประมาณ 3 ถึง 15 เท่า ตราสารทางการเงินนี้จะเคลื่อนไหวตามราคาของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า MSCI China A 50 Connect Index
ทั้งนี้ เว็บไซต์ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ของเจ.พี.มอร์แกน - JPMorgandw41.com/mca50 จะแสดงข้อมูลราคาของดัชนีหลักทรัพย์บน MSCI China A 50 Connect Index เพื่อช่วยนักลงทุนในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของหลักทรัพย์ เอ แชร์ ของจีน
เจ. พี. มอร์แกน เปิดตัวธุรกิจใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในประเทศไทยในปีพ.ศ. 2561 และนับจากนั้นได้จดทะเบียนมากกว่า 1,000 หลักทรัพย์ ในฐานะที่เป็นผู้นำในการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในประเทศไทย บริษัทมีความมุ่งมั่นในการจัดหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความหลากหลายให้กับนักลงทุนไทย สำหรับสภาวะตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงและความสามารถในการรับความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป