นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยวา (TWPC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดยอดขายครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตต่อเนื่อง ตามดีมานด์ที่ฟื้นตัวดีขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และธุรกิจพลาสติกชีวภาพจากแป้งมันสำปะหลัง (ไบโอพลาสติก) สามารถกลับมาเดินเครื่องได้เต็มกำลัง
รวมถึงบริษัทมีแผนขยายไลน์การผลิตแป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม (HVA), ธุรกิจอาหาร (Food) คาดว่าจะรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 4/65 และขยายไลน์ผลิตไบโอพลาสติกไลน์ที่ 2 โดยวางงบลงทุนรวมไว้ที่ 100-150 ล้านบาท ขณะที่เตรียมจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมอีกในกลุ่ม Food
ส่วนในเรื่องของต้นทุนที่อยู่ในระดับสูง ที่ผ่านมากระทบกับราคาขายไม่มาก เพราะสามารถปรับขึ้นราคาขายได้ตามต้นทุน อีกทั้งการก่อนค่าของเงินบาท บริษัทฯ ก็ได้มีการทำป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าเมื่อได้รับออเดอร์บางส่วน และในขณะเดียวกันราคาขายแป้งก็มีการปรับตัวตามราคาค่าเงินบาทด้วย
บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก (double-digit) จากปีก่อนที่มีรายได้ 9,194.51 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 5,232.51 ล้านบาท และตั้งเป้าภายใน 2 ปีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยจะมียอดขายเติบโตเป็นกว่า 7 พันล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตของธุรกิจแป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม (HVA) จากการขายทั้งในรูปแบบ B2B และ B2C
ส่วนด้านการส่งออก บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นตลาดจีน โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2 พันล้านบาท ส่วนเวียดนาม ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1 พันล้านบาท โดยมีแผนขยายตัวแทนจำหน่าย (Distribution) และฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่อินโดนีเซีย ก็มีแผนขยายตลาดมากขึ้นเช่นกัน รวมถึงยังคงเดินหน้าพัฒนาซัพพลายเชน และใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง
ภายในปี 73 บริษัทจะมุ่งเน้นใน 5 เรื่อง ประกอบด้วย 1. การใช้นวัตกรรมลดต้นทุน (Farm Teach and Innovation), 2. การให้ความสำคัญกับอาหารเพื่อสุขภาพ (Healthy, delicious, RTE Food) (TH and Vietnam Food), 3. B2B Food Solutions and Ingredients, 4. Specialty-focused innovation on bioplastics, sustainable packaging for circular economy และ 5. บริษัท ไทยวา เวนเจอร์ส จำกัด หรือการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ เพื่อการ synergy ร่วมกันขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่
นอกจากนี้ บริษัทยังวางงบลงทุนภายใน 3 ปีจากนี้ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 300 ล้านบาท จะลงทุนโซลาร์รูฟท็อป เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าลง โดยตั้งเป้าใช้พลังงานทดแทน 50% ของการใช้พลังงานทั้งหมดภายในปี 68, อีก 500-700 ล้านบาท จะใช้รองรับการเติบโตของธุรกิจหลัก, 500 ล้านบาท รองรับการขยายไลน์ผลิตของธุรกิจไบโอพลาสติก และจำนวน 500 ล้านบาทจะใช้ลงทุนในสตาร์ทอัพ โดยตั้งเป้าไว้ที่ 8-10 รายภายใน 2 ปี โดยปีนี้ปิดดีลไปแล้ว 3 ราย