บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.พริมา มารีน (PRM) ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 8.20 บาท จากเดิม 7.70 บาท อิง 2022E core PER ที่ 17 เท่า (-0.25SD below 5-yr average PER) ผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังปี 65 และปี 66 กลับสู่ขาขึ้น และมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นจากเดิม valuation ยังน่าสนใจคิดเป็น 2022E core PER ที่ 13.1 เท่า (-0.75SD) กำไรปกติปี 65 จะดีกว่าปี 64 ที่มีกำไร 1.0 พันล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นในปี 64 เฉลี่ยเทรดอยู่ที่ 8.00-8.50 บาท
มุมมองเป็นบวกมากขึ้นจากการประชุมนักวิเคราะห์ (30 ส.ค.) โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1) เรือ FSU จะฟื้นตัวเร็วขึ้นจากเดิมในครึ่งปีหลังปี 65 เนื่องจากมีการปรับขึ้นค่าเช่าเรือขึ้น 15%-20% ชดเชยต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ utilization rate จะดีขึ้นเป็น 80%-90% จากไตรมาส 2/65 ที่ 70% จากการขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น
2) เรือ international trading จะยังเติบโตโดดเด่นตามเดิม จากเรือ VLCC ลำใหม่ที่เริ่มให้บริการตั้งแต่ 5 มิ.ย.65 ซึ่งจะรับรู้รายได้เต็มที่ในครึ่งปีหลังปี 65 และเดือน ก.ย.65 จะมีการรับเรือ VLCC เพิ่มอีก 1 ลำ
และ 3) เรือ domestic trading จะดีขึ้นตามปริมาณการขนส่งน้ำมันและเคมีภัณฑ์ที่มากขึ้น รวมทั้งมีการซื้อเรือเพิ่มอีก 2 ลำ
บล.ดาโอฯ ปรับประมาณการกำไรปกติปี 65 ขึ้นจากเดิม 6% เป็น 1.2 พันล้านบาท +22% YoY จากธุรกิจเรือ FSU และ domestic trading ที่ดีขึ้นจากเดิม สำหรับกำไรปกติครึ่งปีแรกปี 65 คิดเป็น 44% จากทั้งปี โดยเราประเมินกำไรปกติไตรมาส 3/65 จะดีขึ้นเป็น 300-330 ล้านบาท (ไตรมาส 3/64 = 235 ล้านบาท, ไตรมาส 2/65 = 263 ล้านบาท) และดีขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 4/65 จากการเติบโตในทุกธุรกิจ
ราคาหุ้น outperform SET +12%/+8% ในช่วง 1 และ 3 เดือน จากการรับเรือใหม่ในไตรมาส 2/65 ที่มากขึ้น และแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/65 จะเริ่มดีขึ้น หลังจากปรับตัวลงมากตั้งแต่ปี 64