นายพิพัฒน์ วิริยธรานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บมจ.เอสพีซีจี (SPCG) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดรายได้ปีนี้อาจทำได้ไม่ถึงเป้าหมายที่ 4.7 พันล้านบาท รวมถึงกำลังการผลิตที่ 388 ล้านหน่วย หลังในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ผลิตไฟฟ้าได้น้อยกว่าที่ประมาณการไว้ราว 9 ล้านหน่วย เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ (Climate Change) หรือมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าแดด ประกอบกับแนวโน้มในครึ่งปีหลังนี้ จากข้อมูลจนถึงเดือนส.ค. ก็ยังไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ตามเป้า ส่งผลให้ปริมาณพลังงานที่ผลิตได้จะน้อยกว่าเป้าหมาย รวมถึงจะไม่มีการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในครึ่งปีหลังด้วย
แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯ คาดหวังว่าอีก 4 เดือนที่เหลือของปี ซึ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นฤดูหนาว ซึ่งปกติจะเป็นช่วงที่ SPCG ผลิตไฟฟ้าได้ดีที่สุด จะทำได้ตามเป้า
สำหรับความคืบหน้าการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 500 เมกะวัตต์ บนพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการขอใบอนุญาตต่างๆ คาดว่าจะผลักดันให้แล้วเสร็จ เพื่อดำเนินการก่อสร้างได้ในช่วงปลายปี 65 และน่าจะใช้เวลาก่อสร้างได้ราว 4-5 เดือน หากเป็นไปตามนี้มองว่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้บางส่วนในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้า โดยบริษัทฯ วางงบลงทุนไว้ที่ 12,500 ล้านบาท หากติดตั้งครบ 500 เมกะวัตต์ คาดจะสนับสนุนรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปในครึ่งปีหลังนี้ คาดว่าลูกค้าจะกลับมาลงทุนติดตั้งกันมากขึ้น หลังโควิด-19 คลี่คลาย โดยบริษัทฯ ยังมุ่งเน้นสินค้าที่มีคุณภาพ และบริการหลังการขายให้กับลูกค้า