นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง (RT) เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3/65 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิต่อเนื่องจากไตรมาส 2/65 โดยคาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 900 ล้านบาท จากการมุ่งเน้นขยายประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงการ ทั้งงานก่อสร้างที่อยู่ในแผนและงานที่กำลังจะเข้ามา เพื่อส่งมอบงานได้เร็วขึ้นและสร้างการรับรู้รายได้ต่อเนื่อง
บริษัทมีงานในมือ (Backlog) แล้วกว่า 7,218 ล้านบาท ณ วันที่ 2 ก.ย.65 โดยเป็นงานที่ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั้งหมด 25 โครงการ ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทลงพื้นที่ติดตามงานก่อสร้างอย่างใกล้ชิด พร้อมบริหารจัดการต้นทุนเพื่อรักษาอัตรากำไร นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง และจะทยอยรู้ผลในช่วงที่เหลือของปีนี้ เชื่อว่าหนุนให้ Backlog ณ สิ้นปีเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 8,500 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้
บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากงานก่อสร้างในไตรมาส 2/65 แบ่งเป็นงานประเภทงานก่อสร้างอุโมงค์และโครงสร้างใต้ดิน 39.03%, งานก่อสร้างเขื่อนและระบบชลประทาน 25.19%, งานก่อสร้างท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน 17.72% และงานก่อสร้างอื่น ๆ อาทิ งานก่อสร้างถนน และงาน Slope Protection จำนวน 18.06%
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เพิ่มปริมาณเครื่องจักรในพื้นที่ไซต์งานให้เพียงพอ และเพิ่มแรงงานก่อสร้างชาวต่างชาติที่กลับมาทำงานได้ตามปกติด้วยความร่วมมือระหว่างบริษัทและพันธมิตร โดยมีแผนการเพิ่มแรงงาน 30% จากจำนวนแรงงานทั้งหมดของบริษัท ซึ่งปัจจุบันมีการนำเข้ามาแล้ว 10% และจะทยอยนำเข้าให้ครบจำนวนภายในไตรมาส 3/65
สำหรับการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่จะเกิดขึ้น คาดว่าจะมีผลต่อต้นทุนให้เพิ่มขึ้น 0.4-05% ถือว่ากระทบไม่มากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่จ่ายค่าแรงสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว
"ในช่วงไตรมาส 1/65 ที่ผ่านมาบริษัทมีผลกระทบต่อเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และราคาวัสดุที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้มีผลขาดทุน แต่อย่างไรก็ตามในไตรมาส 2/65 ผลประกอบการเริ่มกลับมามีกำไรสุทธิได้แล้ว และเราคาดว่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3/65 ด้วยการบริหารจัดการต้นทุน และ เร่งดำเนินโครงการเพื่อส่งมอบและรับรู้รายได้มากขึ้น"นายชวลิต กล่าว