(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ตามภูมิภาค ไร้ปัจจัยใหม่ ตลาดรอตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 5, 2022 09:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ โดยยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาส่งผลต่อทิศทางตลาดหุ้น แต่ยังคงมีแรงกดดันในเรื่องของการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนยังชะลอการลงทุนอยู่บ้าง

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้านี้เปิดมาเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน โดยตลาดยังอยู่ระหว่างรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะทยอยออกมา โดยให้แนวต้าน 1,635-1,640 จุด แนวรับ 1,605-1,610 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (2 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,318.44 จุด ลดลง 337.98 จุด หรือ -1.07%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,924.26 จุด ลดลง 42.59 จุด หรือ -1.07% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,630.86 จุด ลดลง 154.26 จุด หรือ -1.31%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,567.29 จุด ลดลง 83.55 จุด หรือ -0.30%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,299.09 จุด ลดลง 153 จุด หรือ -0.78% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,183.95 จุด ลดลง 2.53 จุด หรือ -0.08%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 ก.ย.65.) ที่ระดับ 1,622.15 จุด เพิ่มขึ้น 0.20 จุด +0.01%
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,175.61 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 ก.ย.65
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.(2 ก.ย.) เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 86.87 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ยังคงร่วงลงราว 6.6% ในรอบสัปดาห์นี้
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 ก.ย.) อยู่ที่ 5.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 36.71 แนวโน้มอ่อนค่า จับตาตัวเลขเงินเฟ้อไทยวันนี้ ให้กรอบ 36.65-36.85 บาท/ดอลลาร์
  • "บีโอไอ" มั่นใจยอดขอส่งเสริมการลงทุนปี 65 มีลุ้นแตะ 5 แสนล้าน หลังโครงการใหญ่ทยอยเข้าช่วงสิ้นปี ยุทธศาสตร์ส่งเสริมลงทุนใหม่เลื่อนไม่กระทบ จับตาลงทุนกิจการกลุ่ม BCG มาแรง
  • นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ถึง 3 ฉบับเพื่อกำชับให้กำกับดูแลการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเข้มงวด และเร่งให้ความรู้ความเข้าใจกับนักลงทุนเพราะการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง แต่ต้องย้ำเตือนนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากขณะนี้มีการชักชวนให้มีการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล การขุดเหมืองบิทคอยน์จำนวนมาก ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงและความเสียหายแก่นักลงทุน
  • "สนธิรัตน์" ห่วงคนไทยเผชิญวิกฤต "ค่าไฟ-ค่าก๊าซ" แพง จี้ รบ.ชัดเจนทุ่ม 8 พันล้านอุ้มกลุ่มเปราะบาง วอนอย่าให้ ปชช.เผชิญปัญหาตามลำพัง พร้อมแนะรัฐเร่งบริหารการจัดหาแหล่งพลังงานรอบด้าน "จิรายุ" แนะ 4 แก้ปัญหาค่าไฟแพง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • NSL (ฟินันเซียไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 24 บาท แนวโน้มไตรมาส 3/65 ดูดีกว่าที่เคยคาด ล่าสุดรายได้ไตรมาส 3/65 ยังปรับขึ้นต่อเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/65 และโตสูงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แรงหนุนจาก Reopening ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบเริ่มทรงตัวถึงปรับลงทั้งแป้งสาลีและน้ำมันปาล์ม ลุ้นกำไรไตรมาส 3/65 จะโตต่อทั้ง Q-Q และ Y-Y อาจทำ New high สวนทางฤดูกาล ที่มักอ่อนลง Q-Q เพราะหน้าฝน ส่วนกำไรไตรมาส 4/65 จะปรับขึ้นต่อเพราะเป็น High Season และได้อานิสงส์จากนักท่องเที่ยวที่กลับมามากขึ้น ทำให้เราเริ่มเห็น Upside ต่อประมาณการกำไรปี 65 จากปัจจุบันคาด +30% ส่วนปี 66 คาดโตต่อเนื่องอีก 15% ให้แนวรับ 18.50 บาท แนวต้าน 19.80-20 บาท
  • SSP (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 13.0 บาท จากได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นค่า Ft จากสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ทั้งหมด 235.6 เมกะวัตต์ มีโรงไฟฟ้า 2 แห่งที่ PPA ภายใตส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (adder) ที่ 3 เมกะวัตต์ (21.8% ของกำลังผลิตทั้งหมด) ซึ่งคาดจะได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นค่า Ft ที่เพิ่มขึ้นจาก -0.1532/กิโลวัตต์ชั่วโมง ในไตรมาส 4/64 เป็น +0.9343 บาท/กิโลวัตต์ชั่วโมงในการปรับรอบที่ 3 ของปี 65 (เดือนก.ย.-ธ.ค.65), แผนที่จะเพิ่มกำลังผลิตเป็น 500 เมกกะวัตต์ในปี 68 นั้นน่าเป็นไปได้และ PER ไม่แพงที่ 8.49 เท่า เราคาดวากำไรปกติในครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก จากการดำเนินงานครึ่งปีเต็มของ Wind Chai , ค่า Ft ที่เพิ่มขึ้นและ COD ของโซล่าร์รูฟท็อปในอินโดนีเซีย
  • TFG (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 6.80 บาท แนวโน้มรายได้ไตรมาส 3/65 เติบโตหนุนด้วยราคาไก่เฉลี่ยไตรมาส 3/65 เพิ่มขึ้น 6% QoQ (ไก่สดทั้งตัว) เฉลี่ยที่ 72.5 บาท/กก. ส่วนหมูเพิ่ม 4% QoQ (หมูเนื้อแดง+สะโพก) เฉลี่ยที่ 192.5 บาท/กก. มาร์จิ้นในครึ่งปีหลังจะดีขึ้น จากราคาขายที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง ยกตัวอย่างราคา Future ถั่วเหลืองล่าสุด -10%QoQ (เทียบราคาล่าสุดกับต้นไตรมาส 2) และราคา Future ข้าวโพด -10%QoQ ตามลำดับ ส่วนเงินบาทยังอ่อนค่าที่ 36.67 บาท/USD อ่อนค่า 3.9% QTD Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 เฉลี่ยที่ 2.94 พันล้านบาท และ 3.43 พันล้านบาท +425%YoY, +17%YoY ตามลำดับ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ