ขณะที่บริษัทคาดผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดประเทศประเทศ และ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่คลี่คลายไปในทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว
บริษัทยังเดินหน้ากลยุทธ์ 5 ด้าน คือ 1. มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีด้านดิชิทัลในการพัฒนาต่อยอดระบบการดำเนินการทั้งหมด 2.การออกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม ตอบโจทย์ และสามารถแข่งขันได้ 3.มุ่งเน้นการให้ลูกค้าเป็นศูนญ์กลาง สร้างการบริการให้สามารถต่อยอดไปในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆได้เพิ่มเติม 4.ขยายการให้บริการให้ทุกช่องทาง ปัจจุบันบริษัทมีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย แบ่งเป็นศูนย์บริการลูกค้า 22 แห่ง ทั่วประเทศ มี Call canter ให้บริการ 24 ชั่วโลก และ มีช่องทางการจำหน่ายผ่านสาขาของธนารคารต่างๆ รวมไปถึงการมีตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแรง ซึ่งบริษัทมีอยู่กว่า 5,000 ราย 5. สร้างบุคลาการให้มีความพร้อมกับการขยายตัวในอนาคต "ในปีนี้เรามีการเติบโตจากปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งแผนการเปิดประเทศของไทย ที่ช่วยให้กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจกลับมาได้ รวมไปถึงการโอนย้ายประกันจากประกันหลายๆรายที่ปิดตัวไป นอกจากนี้เรายังคงดำเนินกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกและต่อเนื่องไปในช่วงครึ่งปีหลังด้วย"นางปุณฑริกา กล่าว นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการขยายตลาดประกันภัยไปในตลาดใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า ทั้ง รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถบัส รถบรรทุก และ เรือ ทั้งนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างความเข้มแข็งอย่างต่อเนื่องในประเทศที่ได้เข้าไปขยายกิจการด้วย อาทิเช่นใน สปป.ลาว ในขณะเดียวกันยังคงมองหาการเติบโตอย่างต่อเนื่องไปในกลุ่มประเทศ CLMV และอาเซียน