นายธรรมขจร นันทพงษ์ นักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก หรือเติบโตราว 60% เนื่องจากเป็นไฮซีซั่นของการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำ เนื่องจากมีปริมาณฝนตกมาก โดยเฉพาะในไตรมาส 3/65 ประกอบกับยังได้ปัจจัยหนุนจากการปรับขึ้นค่า Ft งวดเดือนก.ย.-ธ.ค.65 ส่งผลทำให้รายได้จากลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 60-70 ล้านบาท (บนสมมติฐานค่าก๊าซอยู่ในระดับปัจจุบัน)
สำหรับความคืบหน้าการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง หลังบริษัท หลวงพระบางพาวเวอร์ จำกัด (LPCL) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจการซื้อขายไฟฟ้า (Tariff MOU) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอ กฟผ. อนุมัติลงนานสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) โดยทาง กฟผ.อยู่ระหว่างการสอบทาน PPA และเจรจาการกู้เงินกับสถาบันการเงิน คาดว่าจะสามารถลงนามได้ในช่วงไตรมาส 4/65
ในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ ในวงเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดในเดือนพ.ย.นี้ และในปี 66 ก็มีแผนออกเพิ่มอีก วงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงการใหม่ ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็นสองเท่าภายใน 3 ปี หรือปี 67 เติบโตแตะ 4,800 เมกะวัตต์ โดยจะมุ่งเน้นไปที่ Renewable ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ (Hydro), โรงไฟฟ้าพลังงานลม และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น โดยตั้งเป้าผลักดันกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มเป็น 95% จากปัจจุบัน 89% ซึ่งการลงทุนทั้งหมดยังคงอยู่ในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในเวีดยนาม