นางแววตา กุลโชตธาดา รองผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชีและเลขานุการบริษัท บมจ.ที เอส ฟลาวมิลล์ (TMILL) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมั่นใจว่าในครึ่งปีหลังจะใช้กำลังการผลิตได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5% หรือเพิ่มเป็นมากกว่า 75% จากในช่วงครึ่งปีแรกที่มีการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยที่ 70% โดยเป็นการฟื้นตัวตามเศรษฐกิจในประเทศที่มีการขยายตัว หลังจากประเทศไทยดำเนินนโยบายการเปิดประเทศ และ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนุนให้การบริโภคในประเทศขยายตัวได้
นอกจากนี้กำลังซื้อที่มีทิศทางการฟื้นตัวที่ดีขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่เข้ามากระตุ้นการบริโภค และบรรยากาศในการใช้จ่ายในช่วงครึ่งหลังปีนี้มีความคึกคักกว่าเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าทั้งรายเดิมและรายใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้บริษัทยังได้เน้นการบริหารจัดการต้นทุนให้เหมาะสม ด้วยการล็อกราคาวัตถุดิบไว้ล่วงหน้า เพื่อที่จะลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาข้าวสาลีและค่าเงินบาทที่มีความผันผวนค่อนข้างมาก โดยบริษัทมีคำสั่งซื้อล่วงหน้า 3-6 เดือน ซึ่งบริษัทมีข้าวสาลีรองรับการผลิตได้จนถึงสิ้นปี 65 แล้ว
"เราหันมาเน้นการจำหน่ายสินค้าที่มีมาร์จิ้นดีมากกว่าปริมาณ เนื่องจากความผันผวนที่ค่อนข้างสูงในช่วงที่ผ่านมา ทั้งค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และ ราคาข้าวสาลีที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมามากกว่า 50% จากปีก่อน ซึ่งเรามีทีมที่จะติดตามและดูแลสถานการณ์เพื่อที่จะวางแผนและกลยุทธ์ในการดำเนินกิจการอย่างเหมาะสม ทั้งด้านต้นทุนและการผลิต"นางแววตา กล่าว