CNS แจง Q2/51 กำไรดีขึ้น จากรายได้ค่านายหน้า-ส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม

          น.ส.วรางคณา วสุวานิช ผู้บังคับบัญชาสายงานการเงิน บล.พัฒนสิน(CNS) ชี้แจงงบการเงินไตรมาส 2/51 สิ้นสุดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 มีกำไรสุทธิ 34.83 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.49 บาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/50 มีกำไร 20.65 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้น 0.29 บาท เนื่องจากรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้นรวม 40.54 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าซื้อขายโดยรวมของตลาด และประกอบกับการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทฯ 
          รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้นรวม 19.62 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการด้านตราสารหนี้และการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน กำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นรวม 10.09 ล้านบาท เนื่องจากการขายหลักทรัพย์เผื่อขายและ
โอนกลับขาดทุนจากการด้อยค่าของหลักทรัพย์นี้ ขณะที่รายได้อื่น ๆ ลดลงรวม 17.37 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลดลงของดอกเบี้ยและเงินปันผล เนื่องจากการลดลงของอัตราดอกเบี้ยท้องตลาด
          ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 26.45 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานจำนวน 24.63 ล้านบาท  ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าตอบแทนพนักงานการตลาดอันเนื่องมาจากรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เพิ่มขึ้น และมีค่าใช้จ่ายอื่นๆเพิ่มขึ้นจำนวน 2 ล้านบาท ภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 12.24 ล้านบาท  ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้และค่าใช้จ่ายดังกล่าวข้างต้น 
          สำหรับงวด 6 เดือนของปีนี้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 71.88 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.00 บาท  ลดลงเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน  
ซึ่งมีกำไร  84.96  ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้น 1.19 บาท เนื่องจาก ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 43.54 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจาก การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้น จำนวน 42.44 ล้านบาท ภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 9.30 ล้านบาท  ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับอัตราภาษีนิติบุคคลจากร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 30 เนื่องจากสิ้นสุดระยะเวลาลดหย่อนภาษี
          ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลง 19.09 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากการลดลงของรายได้จากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน รายได้อื่นๆ ลดลงรวม 20.14  ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลจำนวน 24.20 ล้านบาท อันเนื่องมาจากการลดลงของอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด
          ส่วน แม้ว่ารายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้นรวม 78.99 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าซื้อขายโดยรวมของตลาด  และประกอบกับการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทฯ