นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวผันผวน เนื่องจาก Fund Flow นักลงทุนต่างชาติไหลออกอย่างต่อเนื่อง เงินบาทอ่อนค่าที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ ประกอบกับความกังวลต่อการที่ประเทศจีนสั่งล็อกดาวน์เมืองใหญ่หลายแห่งเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัว กดราคาน้ำมันในตลาดโลกต่ำลง และความคืบหน้าของการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาดโลก ทำให้คาดการณ์การเคลื่อนไหวของดัชนีจะยังคงอยู่ในกรอบ 1,600-1,650 จุด
อีกทั้งยังมีปัจจัยกดดันด้านลบต่างๆ อาทิ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 232,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 245,000 ราย และ ISM เปิดเผยว่าดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนส.ค. อยู่ที่ระดับ 52.8 ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ค. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.0 โดยดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว
ส่วนความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังมีอยู่จากการที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียลงนามในกฤษฎีกาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 ส.ค. เพื่อเพิ่มขนาดกองกำลังติดอาวุธของรัสเซียจาก 1.9 ล้านนายเป็น 2.04 ล้านนาย หลังสงครามยูเครนย่างเข้าสู่เดือนที่ 7
นอกจากนี้ ADP เปิดเผยว่าตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 132,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 300,000 ตำแหน่งหลังจากเพิ่มขึ้น 270,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.และวิกฤตพลังงานในยุโรปมีโอกาสรุนแรงขึ้นจากการที่ก๊าซพรอม (Gazprom) บริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซียระงับจัดส่งก๊าซไปยังเยอรมนี ผ่านท่อส่งนอร์ด สตรีม 1 อย่างไม่มีกำหนดยิ่งเพิ่มความตึงเครียดให้กับตลาดไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนที่ได้ประโยชน์จากการเปิดตัว iPhone 14 ทั้งนี้แอปเปิลประกาศจัดอีเวนท์ในวันที่ 7 ก.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งหุ้นที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากปัจจัยดังกล่าว ได้แก่ CPW, SPVI, COM7, SYNEX และ JMART
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาพรวมทองคำในเดือนที่ผ่านมา Upside จำกัด และยังไร้ปัจจัยหนุนที่ชัดเจนเนื่องจากช่วงปลายเดือนถูกกดดันจากการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล โดย FED พยายามสกัดเงินเฟ้อให้อ่อนตัวลงแม้เศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบเชิงลบ ความกังวลดังกล่าวสะท้อนผ่านพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นระดับ 3.20% สอดคล้องกับดัชนีดอลลาร์ที่เร่งตัวขึ้นแตะระดับ 109.10 กดดันราคาทองคำให้ย่อตัวลงทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,725$/oz ขณะที่ SPDR เทขายต่อเนื่อง 29.61 ตัน
ดังนั้น ในเดือนนี้ราคาทองคำถูกกดดันต่อ เนื่องจากช่วงต้นเดือนคาดว่าตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง อาจทำให้ช่วงปลายเดือนที่จะมีการประชุม FOMC เฟดอาจพิจารณาการปรับขึ้นดอกเบี้ยจาก 0.50% เป็น 0.75% ซึ่งสอดคล้องกับ Fed Watch ที่ให้น้ำหนักมากถึง 72% ว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ขณะที่ให้น้ำหนัก 28% ในการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% หากเป็นไปตามแนวโน้มดังกล่าวจะทำให้กรอบดอกเบี้ยนโยบายขึ้นมาอยู่ที่ 3.00-3.25% เป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ
โดยทางฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ 1,650-1,760 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ โดยยังมีปัจจัยกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด อีกทั้งยังไร้ปัจจัยหนุนใหม่ คำแนะนำไม่หลุดแนวรับข้างต้นให้ทยอยเข้าซื้อสะสม