นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) เปิดเผยว่า แนวโน้มของธุรกิจค้าส่งในกลุ่มของ MAKRO ช่วงไตรมาส 3/65 ยังเห็นการเติบโตที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. 65 ที่ผ่านมายอดขายเติบโตแล้ว 10% และในช่วงต้นเดือนก.ย.นี้ ยังคงเห็นแนวโน้มที่ดีของยอดขายที่มาจากสาขาของ MAKRO เติบโตใกล้เคียง 10% จากการที่กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าหลักกลับมาเปิดธุรกิจตามปกติ และการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัว ทำให้มีการสั่งซื้อสินค้าจากสาขาของ MAKRO เข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหาร โรงแรม ธุรกิจจัดเลี้ยง และสปา เป็นต้น
ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4/65 หรือในช่วงไตรมาส 1/66 คาดว่าจะมีปัจจัยหนุนที่เข้ามาสนับสนุนยอดขายให้กับธุรกิจค้าส่ง จากบริการทางด้านออนไลน์ที่บริษัทได้เพิ่มเริ่มเปิดให้บริการไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทที่ต้องการต่อยอดการขายจากร้านสาขา MAKRO ไปยังช่องทางอื่นๆ เพื่อต่อยอดการเติบโตของยอดขายนอกสาขา
"การเติบโตของเราหลังจากเปิดประเทศแล้ว เราเห็นคนกลับมาซื้อในสาขามากขึ้น แต่ตอนนี้เราต้องคิดต่อว่าเราจะเติบโตออกมาไปข้างนอกอย่างไร นำของที่เราขายออกไปขายข้างนอกอย่างไร จากการใช้สาขาที่เรามีอยู่ให้เป็นประโยชน์ ซึ่งเรามีการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ ทีมขายที่จะส่งสินค้าไปขายให้กับร้านค้า ผู้ประกอบการข้างนอก และบริการออนไลน์ ซึ่งจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในช่วงไตรมาส 4 นี้ หรือช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า" นางเสาวลักษณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในช่วง 1-2 ปีนี้ยังคงเป็นช่วงที่บริษัทมีการวางรากฐานในการพัฒนาและแพลตฟอร์มต่างๆในกลุ่ม เพื่อทำให้สามารถขยายและต่อยอดการให้บริการต่างๆได้มากกว่าการขายเฉพาะในสาขา และเพิ่มความสะดวกในการให้บริการแก่ลูกค้า รวมถึงสามารถขยายฐานลูกค้าออกไปได้มากขึ้น ทำให้บริษัทยังคงต้องมีการลงทุนด้านระบบและเทคโนโลยีอย่างมาก ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการลงทุนยังอยู่ในระดับสูง การทำกำไรอาจจะยังไม่เห็นผลชัดเจนในช่วง 1-2 ปีนี้ แต่จะเห็นยอดขายที่เติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นสิ่งแรกก่อน
นายสมพงษ์ รุ่งนิรีติศัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจโลตัสประเทศไทย กล่าวว่า แนวโน้มของธุรกิจค้าปลีกในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเห็นยอดขายพลิกกลับมาเป็นบวกได้ จากครึ่งปีแรกหดตัวลงราว 1% จากการที่เป็นช่วงเริ่มกลับมาเปิดเมืองและเปิดประเทศอย่างเต็มที่ ทำให้ยอดขายค่อยๆเห็นการฟื้นตัวกลับมาทั้งสาขาในไทยและมาเลซีย ซึ่งในช่วงเดือน ก.ค. มาถึงปัจจุบัน ยอดขายสาขาเดิมของโลตัส (SSSG) ได้กลับมาเป็นบวกขึ้นแล้ว โดยเพาะในประเทศไทยที่สามารถพลิกกลับมาเป็นบวกได้ และยอดขายในมาเลเซียยังมีการเติบโตกลับมาในระดับที่สูง
ขณะเดียวกันในส่วนของพื้นที่เช่าของสาขาโลตัส ได้มีแนวโน้มที่ดีกลับมาต่อเนื่อง จากผู้เช่าต่างๆเริ่มกลับมาเช่าพื้นที่เปิดร้านค้ามากขึ้น โดยที่ปัจจุบันอัตราการเช่าพื้นที่ในสาขาของโลตัสได้ปรับเพิ่มมาที่ 91-92% จากช่วงไตรมาส 2/65 ที่ 89% สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวและความมั่นใจของผู้ประกอบการต่างๆที่เห็นแนวโน้มที่ดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนุนที่สำคัญที่สร้างการเติบโตให้กับโลตัสในปีนี้
นอกจากนี้ในส่วนของการขายผ่านช่องทางออนไลน์ยังคงเห็นการสั่งซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งบริการ Next Day Delivery และ On Demand ซึ่งคาดว่าจะเห็นปริมาณการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์สูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และทำให้สัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ของโลตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 4%
นางเสาวลักษณ์ เสริมตอนท้ายว่า ปัจจุบันทีมบริหารของ MAKRO อยู่ระหว่างการนำเสนอให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MAKRO พิจารณาในเรื่องการเพิ่มสภาพคล่องของหุ้น (Free Float) เพิ่มขึ้นไปที่ระดับ 15% ซึ่งจำเป็นที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ในกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์จะต้องมีการพิจารณาในการขายหุ้นออกมา เพื่อทำให้หุ้น MAKRO มีสภาพคล่องมากขึ้น เป็นไปตามเกณฑ์ที่บริษัทต้องการเข้าสู่การคิดคำนวณในดัชนี DJSI และการเป็นบริษัทที่ยั่งยืน ซึ่งยังคงต้องรอการพิจารณาจากผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท