นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า เงินทุนจากต่างประเทศ (Fund Flow) ยังมีโอกาสไหลเข้ามาอีกในระยะต่อจากนี้ หลังจากต้นปีจนถึงขณะนี้ Fund Flow ไหลเข้ามาแล้วค่อนข้างมาก ยกเว้นเดือนที่ทั่วโลกเกิดความกังวลการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธตนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แต่เมื่อเฟดส่งสัญญาณว่าจะไม่ได้ขึ้นดอกเบี้ยแรง ทำให้คาดว่า Fund Flow จะไหลเข้ามาอีก ประกอบกับ เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นได้ดีหลังจากกลับมาเปิดประเทศ ทำให้มีความเข้มแข็งค่อนข้างมาก เป็นจุดที่ทำให้การลงทุนในตลาดทุนไทยยังน่าสนใจต่อเนื่อง
ทั้งนี้ แนะนำให้มองการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติเป็น 3 ตลาดหลัก คือ ตลาดตราสารหนี้ระยะสั้น ตลาดตราสารหนี้ระยะยาว และ ตลาดหุ้น โดย Fyund Flow จะไหลเข้ามาในแต่ละตลาดทิศทางที่แตกต่างกันในช่วงเวลาเดียวกัน โดยตลาดตราสารหนี้ระยะสั้นอาจจะไหลออก ตลาดตราสารหนี้ระยะยาวอาจจะไหลเข้า ยกตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนมองว่าค่าเงินบาทจะอ่อนลงก็จะไหลออกจากตราสารหนี้ระยะสั้น แต่หากมองระยะยาวเงินเฟ้อไม่สูง การเติบโตของประเทศยังมี ก็อาจจะไหลเข้าในตลาดตราสารหนี้ระยะยาวและ ตลาดหุ้น จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อมูลอย่างใกล้ชิดว่าการไหลเข้าไหลออกของเงินทุนมาจากปัจจัยใดบ้าง
นายภากร กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจในปลายประเทศสามารถฟื้นตัวได้ค่อนข้างมากและรวดเร็วตั้งแต่ปี 64 ที่เกิดวิกฤติโควิด-19 เช่นเดียวกับประเทศประเทศไทยสามารถกลับมาเติบโตได้อย่างชัดเจนตั้งแต่แต่ช่วงต้นปีนี้ โดยส่วนที่เป็นปัจจัยบวกสำคัญ คือการส่งออกและการท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันปัจจัยที่มีส่วนสนับสนุนการเติบโตมาจากการจับจ่ายใช้สอยของภาคเอกชนที่เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2/65 เป็นต้นมา ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนของ GDP ที่ 50%
อย่างไรก็ตาม มองว่าขณะนี้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวมาเพียงแค่ 50% ของภาพรวมทั้งหมด แต่กำไรของบริษัทจดทะเบียนได้กลับมาฟื้นตัวได้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว ดังนั้น หากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้เต็มที่ โดยเฉพาะจากการท่องเที่ยวและอื่นๆ นั้น ที่เหลืออีก 50% จะยิ่งทำให้ตัวเลขที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการเติบโตใหม่ๆเพิ่มขึ้น อาทิ กลุ่มอาหารที่เป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ได้พัฒนา Food Tech ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และพัฒนาคุณภาพของอาหาร ตั้งแต่กระบวนการสรรหาวัตถุดิบ ขนส่ง แปรรูป จนออกมาเป็นสารพัดเมนูบนโต๊ะอาหาร ทั้งอาหารเพื่อสุขภาพ Plant-based และอาหารที่เป็นยา ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ขณะที่กลุ่มการท่องเที่ยว ปรับไปเป็นใปแบบของการท่องเที่ยวระยะยาว (Long Stay) ที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพด้วย นอกจากนี้ บจ.ไทยยังมีความเข้มแข็งด้านความยั่งยืนอีกด้วย
ในด้านภาพใหญ่ของประเทศไทยเองถือว่าดีมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้ต่อ GDP หนี้ต่างประเทศ เงินสำรองระหว่างประเทศ ถือว่าอยู่ในลำดับต้นๆของโลก เป็นส่วนช่วยสนับสนุนความเชื่อถือของเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามา อีกทั้งภาพรวมของประเทศไทยเศรษฐกิจมีระบบที่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง ทั้งด้วยภาคเกษตร อุตสาหกรรม การบริโภค ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาต่างประเทศมากนัก
นี่คือความหลากหลายของเศรษฐกิจไทยที่ทำให้ภาพรวมมีธุรกิจที่สามารถเติบโตได้ดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีบริษัทของไทยไปเติบโตในต่างประเทศค่อนข้างมาก หากในต่างประเทศมีการฟื้นตัวบริษัทของไทยก็จะมีการเติบโตขึ้นตามไปด้วย โดยจะเห็นได้ว่าผลกำไรจากต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ส่วนของรายได้จากต่างประเทศสูงถึงเกือบ 40% ของทุกบริษัทจดทะเบียน เป็นส่งส่วนสนับสนุนให้มีการลงทุนมายังประเทศไทยมากยิ่งขึ้น