นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงรับแรงกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) ปรับตัวสูงขึ้น จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ หรือตัวเลขภาคบริการ ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด คาดว่าจะหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.75% ในการประชุมก.ย. โดยล่าสุด FedWatch Tool ชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 75% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ส่งผลกดดันมูลค่าหุ้น
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็กลับมาผันผวน โดยปรับตัวลงจากความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดและเศรษฐกิจจีนหลังขยายเวลาการล็อกดาวน์ออกไปอีก รวมทั้งในวันนี้จะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้นขนาดใหญ่หลายตัว เช่น BBL คาดเป็นอีกปัจจัยที่กดดัน SET
ให้แนวรับที่ 1,620-1,625 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,610 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,640-1,650 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (6 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,145.30 จุด ลดลง 173.14 จุด หรือ -0.55%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,908.19 จุด ลดลง 16.07 จุด หรือ -0.41% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,544.91 จุด ลดลง 85.96 จุด หรือ -0.74%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,546.01 จุด ลดลง 80.5 จุด หรือ -0.29%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 18,915.87 จุด ลดลง 286.86 จุด หรือ -1.49% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,232.14 จุด ลดลง 11.31 จุด หรือ -0.35%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 ก.ย.65.) ที่ระดับ 1,633.87 จุด เพิ่มขึ้น 11.87 จุด, +0.73%
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 114.28 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 ก.ย.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.(6 ก.ย.)เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 86.88 ดอลลาร์/บาร์เรล¶
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 ก.ย.) อยู่ที่ 8.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.72 อ่อนค่าหลังตัวเลขศก.สหรัฐออกมาดี-บอนด์ยิลด์สูงหนุนดอลลาร์แข็งค่า¶
- เปิดเอกสาร "มีชัย" อดีตประธาน กรธ. ชี้แจงศาล รธน.ปม 8 ปีนายกฯ ระบุชัดการนับวาระดำรงตำแหน่ง "บิ๊กตู่" เป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 60 ตามมาตรา 158 วรรคสี่ เริ่มตั้งแต่ 6 เม.ย.2560 "วิษณุ" ยันรัฐบาลไม่มีแผนสำรองรับผลศาล รธน.เป็นลบ "พท." ฟันธง 8 ปีเริ่มนับปี 57 ขู่ตีความเป็นอื่นทำลายหลัก รธน.-ละเมิดพระราชอำนาจ "เอี่ยม" แนะประชาชนจับตาศาลประชุมพิเศษ 8 ก.ย. "เต้" บอกหาก "บิ๊กตู่" รอดบรรยากาศอาจซ้ำรอยสมัยนายกฯ สมชาย "ลุงป้อม"โชว์ฟิตถก ครม.รวดเดียวอีกครั้ง
- ครม.ไฟเขียวให้ กฟผ.กู้บริหารสภาพคล่อง โดยคลังค้ำประกัน วงเงิน 8.5 หมื่นล้านบาท หลังแบกรับภาระค่าไฟแทนประชาชนแตะ 1 แสนล้านบาท "สุพัฒนพงษ์" ย้ำอีกรอบมาตรการดูแลกลุ่มเปราะบางผู้ใช้ไฟ และ LPG เข้า ครม. 13 ก.ย. คาดทันบิลค่าไฟฟ้าเดือนก.ย.ที่จะเรียกเก็บปลายเดือนนี้แน่นอน พร้อมเตรียมส่งเสริม โซลาร์รูฟท็อปมากขึ้น
- องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ตั้งข้อสังเกต รฟม.ปรับหลักเกณฑ์คัดเอกชนร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม กระทบเอกชนบางกลุ่มหมดสิทธิ์เข้าร่วม ขณะที่ รฟม.เดินหน้าเปิดซอง เร่งลงนามร่วมทุนปีนี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- ADVANC (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 200.00 บาท แนะนำ "ทยอยซื้อสะสม" ค่อนข้าง Laggard SET กลุ่มสื่อสารและเครือ ขณะที่รายได้บริการและยอดขายอุปกรณ์มือถือกำลังเข้าสู่ High Season (คืนนี้เปิดตัว iphone 14 และ Gadget ต่างๆ) กรณี 3BB และ JASIF หาก ADVANC สามารถซื้อได้สำเร็จจะช่วยให้ขึ้นอันดับ 1 ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบรนด์ ส่วนกรณี JASIF หากต่อรองค่าเช่าได้จะเป็นบวกกับ ADVANC ประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 ที่ 2.76 หมื่น ลบ.และ 2.79 หมื่น ลบ. +3%YoY, +0.8%YoY ตามลำดับ
- BEM (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 10.2 บาท คาดยอด Ridership ของเดือน ส.ค.ที่จะประกาศจะเห็นการฟื้นตัว MoM และต่อเนื่องถึงเดือน ก.ย. โดยสนับสนุนจากวันที้ 12 ก.ย.ศูนย์ฯสิริกิติ์เคาะฤกษ์เปิดทางการ คาดจะมีคนเข้ามาใช้บริการ 13 ล้านคนต่อปี บวกกับ BEM ที่มีสถานีตรงศูนย์ฯสิริกิติ์ และมีปัจจัยหนุนคือ เดือน ก.ย.จะเห็นพัฒนาการความคืบหน้าการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดย BEM มีโอกาสมากกว่าที่จะเป็นผู้ชนะประมูล
- BTS (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 11.30 บาท วันนี้ศาลฯ นัดตัดสินคดี BTS ฟ้อง กทม.ผิดสัญญาเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายฯ เรามีมุมมองบวกโดยคาดว่า BTS จะเป็นผู้ชนะคดีเพราะได้ทำการเดินรถแล้ว แต่กทม.กลับไม่จ่ายค่าจ้างเดินรถตามที่ระบุไว้ในสัญญา