นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการ บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้บริษัท อมตะซิตี้ ลาว จำกัด ซึ่ง AMATA ถือหุ้น 100% ร่วมลงนามในข้อตกลงสัมปทานกับรัฐบาล สปป.ลาว เพื่อพัฒนาโครงการอมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อ หรือเมืองทันสมัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่เมืองนาหม้อ หรือ AMATA Smart and Eco City Namor แขวงอุดมไซ ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของสปป.ลาว
โครงการอมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อ เมื่อสร้างเสร็จจะครอบคลุมพื้นที่ 3,150 เฮกตาร์หรือ 19,687 ไร่ โดยจะแบ่งการพัฒนาในระยะแรกพื้นที่ 1,292 เฮกตาร์ หรือ 8,075 ไร่ ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรชาวไทยและต่างประเทศ การก่อสร้างเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมีกำหนดจะเริ่มในปีนี้ โครงการดังกล่าวนับเป็นโครงการที่สองที่ประกาศขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่เฉลิมฉลองการบุกเบิกโครงการแรกของบริษัท อมตะซิตี้ ลาว จำกัด ในแขวงหลวงน้ำทา ทางตอนเหนือของ สปป.ลาว ไปเมื่อต้นปีนี้
สำหรับความร่วมมือและการทำงาน AMATA ได้ร่วมกับรัฐบาลแห่งสปป.ลาว ตั้งแต่ปี 61 เพื่อพัฒนา อมตะสมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อ ซึ่งได้พัฒนาตามแนวคิดอมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาเตย มีการลงนามในข้อตกลงสัมปทานไปตั้งแต่เดือน ม.ค.65 AMATA มีเป้าหมายที่จะลงทุนและพัฒนาพื้นที่รวมทั้งหมดประมาณ 200 ตารางกิโลเมตรใน สปป.ลาว ผ่านการลงทุนและดำเนินการของบริษัท อมตะซิตี้ ลาว จำกัด คาดว่าจะใช้เงินลงทุนเริ่มต้นที่ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ
"กลุ่มอมตะมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้บรรลุเป้าหมายในการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและปลอดภัยที่สุดของประเทศโดยอาศัยประสบการณ์อันยาวนานของอมตะในการพัฒนาและจัดการนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยและภูมิภาคที่ประสบความสำเร็จ จนสามารถขยายความเจริญและมีที่อยู่อาศัยมากกว่า 1,400 แห่ง ผู้เช่าโรงงานและจัดหางานให้กับคนกว่า 300,000 คน อมตะมีแผนที่จะเชิญลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่จากอุตสาหกรรมต่างๆ มาลงทุนในสปป.ลาว ซึ่งขณะนี้มีบริษัทกว่า 20 บริษัทได้แสดงความสนใจแล้ว" นายวิกรม กล่าว
สำหรับการพัฒนาโครงการทั้งหมดของ AMATA ได้พัฒนาภายใต้กรอบความยั่งยืนและปรัชญาธุรกิจของ 'All Win' โดยมีเป้าหมายเพื่อความสำเร็จร่วมกันและแบ่งปันผลประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย ทุกภาคส่วน และสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งมั่นสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนและครอบคลุม เพื่อเผยแพร่โครงการใหม่ในสปป.ลาว AMNATA มีแผนที่จะเชิญบริษัทและองค์กรระดับโลกต่างๆ จากภาครัฐ เช่น เมืองอุตสาหกรรมโยโกฮาม่าให้เข้าร่วมในโครงการและร่วมกันส่งเสริมโครงการเหล่านี้ในกลุ่มนักลงทุนที่มีศักยภาพ