นายปรีด์ สุวิมลธีระบุตร กรรมการบริหาร และ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มปฎิบัติการ บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN) สำหรับภาพรวมรายได้ในปี 65 บริษัทยังคงมั่นใจว่าจะเพิ่มขึ้นมาเป็นไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกแม้จะมีผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่บ้าง แต่บริษัทยังสามารถสร้างรายได้สูงถึง 1,556.88 ล้านบาท ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังจะไม่มีผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว และยังมีปัจจัยหนุนใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติมด้วย น่าจะทำให้รายได้สูงกว่าครึ่งปีแรก
ทั้งนี้ ทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก โดยจะได้รับปัจจัยหนุนจากการท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ขณะที่บริษัทมีแผนการขยายสาขาร้านอาหารในเครือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแบรนด์ AKA ทั้งการขยายสาขาด้วยตัวเอง และเฟรนไชส์ โดยคาดว่าแบรนด์ AKA จะสร้างรายได้แตะ 1,000 ล้านบาทภายในปี 66
นอกจากนี้ ธุรกิจที่บริษัทเข้าร่วมลงทุนยังมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย บริษัท King Marine (KMF) ผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายปลาแซลมอนแอตแลนติกโฟรเซ่น ที่ ZEN เข้าไปถือหุ้น 51% คาดว่าจะเติบโตเท่าตัวจากปีก่อน หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท โดยบริษัทได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามา และการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องด้วย
ด้านโรงงานผลิตซอส ZKC's ที่ ZEN ถือหุ้นในสัดส่วน 51% นั้น ตลาดในประเทศเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันบริษัทได้เตรียมขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้นหลังจากเริ่มส่งสินค้าให้กับตัวแทนในประเทศบางรายเพื่อนำสินค้าไปจำหน่ายต่างประเทศบ้างแล้ว
นายปรีด์ กล่าวว่า สำหรับการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมองว่าไม่ได้มีผลกระทบต่อบริษัทมากนัก เนื่องจากกลุ่ม ZEN จ่ายค่าจ้างพนักงานสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว ส่วนอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นและค่าใช้จ่ายต่างๆที่ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วยนั้น บริษัทก็ได้มีการปรับตัวมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบ และการปรับรูปแบบงานภายในเพื่อที่จะรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว จึงไม่ได้มีความกังวลต่อปัจจัยดังกล่าวมากนัก