นายไนยวน ชิ ประธานกรรมการและที่ปรึกษาอาวุโส ระบุว่า จะช่วยสร้างทีมผู้บริหารใหม่ขึ้นมาจากคนรุ่นใหม่และทำหน้าที่บริหารเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้นไป
"การเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่นี้ได้ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ได้ถูกเลื่อนออกไปหลายครั้งอันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 และเราได้ตัดสินใจที่จะไม่เลื่อนออกไปอีก โดยสมาชิกในทีมทุกคนของผู้บริหารระดับสูงเหล่านี้ได้ทำงานให้กับ MCS ร่วมกันมามากกว่า 20 ปี จึงไม่สงสัยเลยว่าคุณค่าของ MCS ที่ถูกผสานรวมกันตลอด 30 ปีที่ผ่านมานี้จะได้รับการรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี ในขณะที่แนวทางการจัดการที่พัฒนาขึ้นมาใหม่โดยคนรุ่นใหม่จะถูกนำมาปรับใช้เพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพที่ดีต่อไป ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีและภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นหนึ่งในผู้มีส่วนร่วมในความสำเร็จเหล่านี้" นายไนยวน ชิ กล่าว
ขณะที่ปี 65 บริษัทจะครบรอบ 30 ปีตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทจากจุดเริ่มต้นกำลังการผลิตเดิม 3,000 ตันต่อปี ขยับเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 60,000 ตันต่อปี และจำนวนพนักงานที่ผ่านการอบรมจาก 150 คน ปัจจุบันมีมากถึง 550 คน ดังนั้น เมื่อมองเป้าหมายในระยะยาว พนักงานของบริษัทมากกว่าครึ่งตอนนี้มีอายุน้อยกว่า 30 ปี จึงเชื่อว่าบริษัทอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมานับตั้งแต่ก่อตั้งและเชื่อว่าในระยะยาวจะเกิดการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่เซ็นสัญญาและทยอยส่งมอบงานยาวจนถึงปี 68 และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้โครงการใหม่ๆ ที่มีศักยภาพจะมีข้อสรุป ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าจะได้รับงานเพิ่มเติมในอนาคตต่อเนื่องจนถึงครึ่งหลังปี 69 จากการเป็นบริษัทที่มีมาตรฐานการผลิตเหล็กโครงสร้างขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น (S Grade) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่มีมาตรฐานในการรองรับงานขนาดใหญ่นอกญี่ปุ่น ทั้งนี้การเติบโตในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากความพยายามของพนักงานทุกคน สนับสนุนให้บริษัทก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตชั้นนำ 5 อันดับแรกในญี่ปุ่น มีโครงการมากกว่า 100 โครงการในกรุงโตเกียว ซึ่งรวมถึงอาคารที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นด้วย