โบรกเกอร์ต่างแนะนำ "ซื้อ" หุ้นบมจ.ไพลอน (PYLON) จากแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 คาดเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2/65 รับอานิสงส์ทยอยส่งมอบงานมากขึ้น หนุนต่อการเติบโตของรายได้ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และหนุนต่อกำไรยังเติบโตตาม และไม่ได้รับผลกระมาจากราคาต้นทุนที่ปรับขึ้น เพราะล็อคราคาต้นทุนไว้แล้ว
ขณะเดียวกันบริษัทยังสามารถมีโอกาสรับงานเพิ่มขึ้น จากการลงทุนของผู้ประกอบการภาคเอกชนต่างๆที่กลับมามากขึ้น หลังโควิด-19 คลี่คลาย รวมถึงงานโครงการภาครัฐที่ได้มีการเริ่มก่อสร้าง ทำให้บริษัทสามารถมีงานใหม่เข้ามาเติมในมูลค่างานในมือ (Backlog) รองรับการเติบโตของรายได้ปีต่อๆไป
ราคาหุ้น PYLON ปิดเที่ยงอยู่ที่ 4.52 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงขณะที่ ดัชนี SET บวก 0.13%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) เอเซีย พลัส ซื้อ 6.45 โนมูระ พัฒนสิน ซื้อ 5.60 ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 5.50 ดาโอ ซื้อ 5.40 หยวนต้า ซื้อเก็งกำไร 4.90 นายประสิทธิ์ รัตนกิจกมล นักวิเคราะห์พื้นฐานด้านตลาดทุนและทางเทคนิค บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มในช่วงไตรมาส 3/65 ของ PYLON ยังคงเห็นการเติบโตที่โดดเด่นต่อเนื่องจากไตรมาส 2/65 จากการที่มีงานทยอยส่งมอบมากขึ้น ทำให้สามารถรับรู้รายได้เข้ามาได้มากขึ้น และส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/65 ที่เห็นการปรับตัวดีขึ้นมา ขณะเดียวกันบริษัทยังมีโอกาสลุ้นรับงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งยังมีงานโครงการที่บริษัทติดตามเข้ารับงาน เช่น งานทางยกระดับพระราม 2 งานโครงการมิกซ์ยูสของกลุ่มเซ็นทรัล และโครงการตึก AIA เป็นต้น ทำให้บริษัทมีปัจจัยหนุนต่องานที่มีโอกาสได้รับเข้ามาเสริม Backlog มากขึ้น หนุนต่อการเติบโตของบริษัทในปีต่อๆไป ประกอบกับราคาขายเสาเข็มในปัจจุบันเริ่มปรับตัวดีขึ้น และไม่เผชิญการแข่งข่นราคา ทำให้เป็นผลบวกต่อกำไรของบริษัท โดยยังให้คำแนะนำ "ซื้อ" 6.45 บาท/หุ้น บทวิเคราะห์บล.หยวนต้า มองแนวโน้มผลงานของ PYLON ในช่วงไตรมาส 3/65 ยังมีทิศทางที่เติบโตขึ้น จากการทยอยส่งมอบงานที่มากขึ้น ทำให้บริษัทรับรู้รายได้เข้ามาต่อเนื่อง ประกอบกับความสามารถในการรับงานใหม่ๆที่มาจากทางฝั่งภาครัฐและเอกชนที่จะเข้ามาเพิ่มเติม หลังจากเริ่มมีการกลับมาลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะภาคเอกชนที่กลับมาลงทุนกันมาก ในกลุ่มภาคอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก ทำให้งานเสาเข็มกลับมาเพิ่มขึ้น และหนุนต่อการฟื้นตัวขึ้นของ Backlog และผลงานของบริษัท อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาส 4/65 บริษัทอาจจะมีผลกระทบต่อค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับเพิ่มขึ้นเข้ามา กระทบกำไรของบริษัทบ้าง แต่มองว่ายังเป็นปัจจัยที่บริษัทได้เตรียมรับมือไว้อยู่แล้ว และสามารถบริหารจัดการได้ ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนอื่นๆที่เข้าบริษัทสามารถควบต้นทุนได้ดี จากการเลือกรับงาน ทำให้ความสามารถในการทำกำไรกลับมาดี และเห็นการฟื้นตัวขึ้นมาในครึ่งปีแรก และคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่องในครึ่งปีหลังนี้ โดยให้คำแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย 4.90 บาท/หุ้น นักวิเคราะห์บล.โนมูระ พัฒนะสิน กล่าวว่า ทิศทางของ PYLON ในช่วงไตรมาส 3/65 ยังคงเห็นแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยมาจากงานที่อยู่ใน Backlog หลายงานที่ทยอยส่งมอบมากขึ้นในช่วงไตรมาส 3/65 ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อรายได้ในช่วงไตรมาส 3/65 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ขณะที่ในส่วนของกำไรยังไม่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัสดุและค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการล็อคต้นทุนต่างๆไว้แล้ว ทำให้ยังเห็นความสามารถในการทำกำไรที่ดีในช่วงไตรมาส 3/65 ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้ประกอบการต่างๆกลับมาลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีการกลับมาลงทุนอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า และโรงแรมมากขึ้น รวมถึงงานใหญ่ที่เป็นงานโครงการภาครัฐที่รอเข้าประมูลอยู่ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีการสะสม Backlog มากขึ้น และมีโอกาสเพิ่ม Backlog รองรับการเติบโตในปีต่อๆไปได้ โดยให้คำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท/หุ้น