(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นตามภูมิภาค เก็งเงินเฟ้อสหรัฐลดหนุนเฟดชะลอเร่งขึ้นดอกเบี้ย

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ขึ้น ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้นตามกัน จากความคาดหวังการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯในคืนวันพรุ่งนี้คาดว่าจะปรับตัวลดลง ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจส่งสัญญาณในการขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปที่จะลดความร้อนแรงลง จาก 0.75% มาเป็น 0.50% ได้ หากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะเดียวกันคาดว่าจะมีปัจจัยหนุนระยะสั้นจากกลุ่มพลังงานที่กลับมาฟื้นตัวได้ในระยะสั้น หลังจากราคาน้ำมันรีบาวด์กลับมาได้ ซึ่งอาจจะทำให้มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานเข้ามาช่วยหนุนดัชนีในวันนี้

โดยให้แนวต้าน 1,665-1,670 จุด แนวรับ 1,630-1,635 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (9 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,151.71 จุด เพิ่มขึ้น 377.19 จุด หรือ +1.19%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,067.36 จุด เพิ่มขึ้น 61.18 จุด หรือ +1.53% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,112.31 จุด เพิ่มขึ้น 250.18 จุด หรือ +2.11%
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,483.59 จุด เพิ่มขึ้น 268.84 จุด หรือ +0.95% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 ก.ย.65.) ที่ระดับ 1,654.62 จุด เพิ่มขึ้น 14.62 จุด, +0.89%
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,216.83 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ก.ย.65
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.(9 ก.ย.) พุ่งขึ้น 3.25 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 86.79 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ยังคงปรับตัวลง 0.1% ในรอบสัปดาห์นี้
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 ก.ย.) อยู่ที่ 7.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 36.44 อ่อนค่าตามทิศทางภูมิภาค หลังบอนด์ยีลด์สูงหนุนดอลลาร์แข็งค่า
• "เรืองไกร" เผยชงศาลรัฐธรรมนูญสอบ "มีชัย" เบิกความเท็จปม 8 ปี "ประยุทธ์" ชี้เข้าข่ายผิดป.อาญา 177 ด้าน "นิด้าโพล" ผลสำรวจพบประชาชน 41.46% ไม่พอใจผลงาน "ประวิตร" ทำหน้าที่รักษาการ นายกฯ ส่วน 63.80% เชียร์ให้ยุบสภา ขณะที่พรรคการเมืองประสานเสียงรับศึกเลือกตั้ง
• นายเอกนิติ นิติทัณประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมสรรพสามิตกำลังศึกษาเรื่องการจัดเก็บภาษีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือคาร์บอน แท็กซ์ ในประเทศโดยไทยหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องจัดเก็บภาษีนี้ เนื่องจากปัจจุบันหลายประเทศในโลกเริ่มจัดเก็บภาษีดังกล่าวแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปเป็นประเทศแรกๆ ในโลกที่จะเริ่มจัดเก็บภาษีคาร์บอน ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2566 โดยประเทศไทยจะเริ่มศึกษาเก็บจากสินค้าที่มีผลต่อการปล่อยคาร์บอนสูง คล้ายคลึงกับยุโรป 5 ชนิด คือ ปูนซีเมนต์ เหล็ก อะลูมิเนียม ปุ๋ยเคมี และการผลิตกระแสไฟฟ้า
• คลังกุมขมับ สูญรายได้นับแสนล้านบาท จากมาตรการลดภาษี ดูแลราคาน้ำมันดีเซลในประเทศ จ่อชงครม. 13 กันยายนนี้ ขยายเวลามาตรการลดภาษีลิตรละ 5 บาท ยาวถึงสิ้น 65 ด้านสรรพสามิตดึงเทคโนโลยีจับลักลอบขนน้ำมันเขียว เหตุยกเว้นภาษีเพื่อช่วยเหลือเรือประมง

*หุ้นเด่นวันนี้

• CH (ฟินันเซีย ไซรัส) เข้าเทรดวันแรก แนะ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 3.35 บาท เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลไม้อบแห้ง ปลากระป๋อง และขนมเพื่อสุขภาพ ส่งออกกว่า 70% ของรายได้ และส่วนใหญ่เป็น OEM ผลประกอบการในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาถูกกระทบจาก COVID-19 และการขาดแคลนสายเรือ ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลาย ประกอบกับการขยายฐานลูกค้าไปยุโรปบวกกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของกลุ่มขนมเพื่อสุขภาพ คาดกำไรปี 65-67 +26% CAGR เริ่มเห็น Upside (Finansia เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายฯ)
• PLANB (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 8.50 บาท) เบอร์ 1 ในธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านมี Market share คิดเป็น 90% ของตลาดรวม กำไรทยอยฟื้นตัว และคาดว่าจะทำ New high ได้ในปีหน้าตามธุรกิจสื่อนอกบ้านที่กลับมาขยายตัวหลังวิกฤติ Covid-19 เริ่มคลี่คลาย
• BEM (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.10 บาท คาดเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่องตาม Traffic เดินทางสูงขึ้นหลัง Covid-19 คลี่คลาย โดยเดือน ส.ค. 65 ปริมาณจราจร BEM และผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT ฟื้นมาที่ 1,078.91 พันเที่ยวต่อวัน(+81.67%YoY, +4.13%MoM) และ 320.00 พันเที่ยวต่อวัน(+416.13%YoY, +16.36%MoM) ใกล้ก่อน covid-19 ที่ 1,250-1,290 พันเที่ยวต่อวัน และ 300-350 พันเที่ยวต่อวัน นอกจากนี้ ยังมีประเด็นบวกชนะประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตลาดคาด EPS ปี 65 และ ปี 66 ฟื้นต่อเนื่องจากฐานต่ำปี 64 ที่ 0.07 บาท/หุ้น มาที่ 0.16 บาท/หุ้น, และ 0.25 บาท/หุ้น ตามลำดับ