นายประเสริฐ อิทธิเมฆินทร์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายบัญชีและการเงิน บมจ.ทีพีไอ โพลีน(TPIPL)คาดว่า รายได้ในปีนี้จะเติบโต 5-8% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.69 หมื่นล้านบาท ซึ่งมาจากการยอดขายปูนซีเมนต์ที่น่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างน้่อย 0-5% จากปีก่อนที่มียอดขาย 9 ล้านตัน และบริษัทมีแผนขอปรับเพิ่มราคาขายปูนซิเมนต์อีกเล็กน้อย แต่ต้องขึ้นอยู่กับการพูดคุยกับผู้ผลิตรายอื่นด้วย
ส่วนธุรกิจปิโตรเคมี ในส่วน LDPE/EVA ยังมีส่วนต่างระหว่างวัตถุดิบกับราคาขายค่อนข้างสูง
นายประเสริฐ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทอยู่ระหว่างลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 36 เมกะวัตต์ มูลค่า 1.7 พันล้านบาท ซึ่งลงทุนไปแล้ว 700 ล้านบาท น่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 51 โดยจะใช้พลังงานความร้อนที่ได้จากกระบวนการผลิตมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า
ทั้งนี้ คาดว่าจะทำให้เห็นการประหยัดต้นทุนพลังงานของบริษัทในปี 52 ได้ถึง 580-600 ล้านบาท และนี้ยังสามารถขายคาร์บอนเครดิตจากการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้อีก 1 แสนตัน/ปี ซึ่งอัตราเบื้องต้นอยู่ที่ 15 ยูโร/ตัน
บริษัทยังยืนยันแผนงานการลงทุนสร้างโรงปูนแห่งที่ 4 ที่ดำเนินการมากว่า 10 ปี และยังไม่แล้วเสร็จ โดยลงทุนไปแล้ว 3 พันล้านบาท โดยจะมีการดำเนินการต่อภายหลังจากการรีไฟแนนซ์หนี้เสร็จสิ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาเพื่อหาเจ้าหนี้รายใหม่เพื่อมารับหนี้ก้อนเดิม 8.4 พันล้านบาทตามแผนฟื้นฟูกิจการ จากนั้นก็ยื่นขอออกจากแผนฟื้นฟูกิจการตามข้อบังคับของศาลล้มละลายกลางได้ทันที
"บริษัทยังไม่ล้มเลิก โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนอีก 6 พันล้านบาท และจะมีกำลังผลิตปูนเพิ่มอีก 3-4 ล้านตัน แผนการก่อสร้างจะดำเนินการต่อ หลังบริษัทรีไฟแนนซ์หนี้เสร็จในปีนี้" นายประเสริฐ ระบุ
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า บริษัทยังยืนยันที่จะยื่นคำร้องขออุทธรณ์กรณีค่าปรับคดีปั่นหุ้น 6.9 พันล้านบาท ซึ่งจะยังคงไม่ตั้งสำรองทางการเงินในส่วนนี้ เนื่องจากจะรอให้คดีสิ้นสุดเสียก่อน
"เราจะสู้คดีไปถึงศาลสูงสุด และให้เป็นการพิจารณาของศาล ส่วนคดีอื่นๆ อาทิ คดีค่าเครื่องจักร และคดีการซื้อหนี้คืนก็ยังคงอยู่ในศาล ซึ่งบริษัทยังคงปล่อยให้เป็นการพิจารณาของศาลและยังไม่มีการตั้งสำรองใดๆ แต่หากจำเป็นจะต้องจ่ายๆ จริงตามคำสั่งศาล บริษัทก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถจ่ายคืนได้" นายประเสริฐ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--