นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ต่อสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย จากนักลงทุนเก็งตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเดือน ส.ค.เข้าสู่ช่วงขาลง และดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่า กระตุ้นการถือสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น เห็นได้จากเงินทุนต่างชาติเริ่มไหลกลับเข้ามา ประกอบกับราคาน้ำมันก็รีบาวด์ต่อเนื่องจากความกังวลอุปทานตึงตัวหลังรัสเซียขู่หยุดส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปหากมีการใช้มาตรการจำกัดราคานำเข้าพลังงานของรัสเซีย ซึ่งจะหนุนกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้ แนะติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.หรือตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ คืนนี้ และการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ว่าจะมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า-ค่าน้ำช่วงเดือนก.ย.-ธ.ค. 65 และต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลออกมาหรือไม่
ให้แนวรับที่ 1,655-1,660 จุด และแนวต้านให้ไว้ที่ 1,675 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (12 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,381.34 จุด เพิ่มขึ้น 229.63 จุด หรือ +0.71%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,110.41 จุด เพิ่มขึ้น 43.05 จุด หรือ +1.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,266.41 จุด เพิ่มขึ้น 154.10 จุด หรือ +1.27%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,556.21 จุด เพิ่มขึ้น 14.10 จุด หรือ +0.05%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,404.64 จุด เพิ่มขึ้น 42.39 จุด หรือ +0.22% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,272.05 จุด เพิ่มขึ้น 10 จุด หรือ +0.31%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 ก.ย.65.) ที่ระดับ 1,665.74 จุด เพิ่มขึ้น 11.12 จุด, +0.67%
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,249.57 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 ก.ย.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.(12 ก.ย.) เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 87.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 ก.ย.) อยู่ที่ 7.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.32 แนวโน้มแกว่งในกรอบ 36.15-36.35 จับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้
- "สุพัฒนพงษ์" เผยต้นทุนดูแล "ราคาพลังงาน" พุ่ง 2 แสนล้าน แนวโน้มเพิ่มไม่หยุด ชง ครม.วันนี้เคาะ 2 มาตรการใหญ่ ลดภาษีดีเซล 5 บาท 2 เดือน และ ช่วยค่าไฟฟ้า กลุ่มเปราะบาง 4 เดือน เจียดงบกลาง 8 พันล้านอุ้ม คลังเผยขยายเวลาหั่นภาษีน้ำมันทำสูญรายได้ อีก 2 หมื่นล้าน
- "วิษณุ" แนะรอลุ้น 14 ก.ย. ปม 8 ปี "ประยุทธ์" เผยหากศาลวินิจฉัยไม่เริ่มนับปี 57 พรุ่งนี้กลับมาทำงานต่อได้เลย แต่ถ้านับปี 57 ไม่ต้องกลับ "บิ๊กป้อม" รักษาการแทน "ชวน" เรียกประชุมสภาฯ เลือกนายกฯ คนใหม่ ย้ำยุบสภาฯ ไม่ง่าย ย้อนถามทำไมสื่อสนใจแต่ "มีชัย" ไม่สน "ปกรณ์" บ้าง โยนถามคนพูดหลังเพื่อไทยประกาศพาคนที่รักกลับบ้าน "สดศรี" ชี้ช่องศาลรัฐธรรมนูญเบิกความ กรธ.ทุกคนเพื่อคลายปม "อนุทิน" ขอบคุณตกโผแคนดิเดตนายกฯ ลั่นตอนนี้ทำงานมีความสุขดี ขอลุยผลงาน 30 บาทรักษามะเร็งฟรี
- ททท.กังวลสถานการณ์น้ำท่วมกระทบบรรยากาศการท่องเที่ยว เริ่มเห็นสัญญาณคนไทยเลิกเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มอบรมสัมมนา เผยคนเลื่อนเที่ยวกาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี จันทบุรี สมุทรสงคราม ราชบุรี หัวหิน ชะอำ หวั่นฝนตกนานติดต่อกันจะกระทบการเดินทางในไตรมาส 3 แต่ยังตั้งเป้ารายได้จากคนกลุ่มนี้ในปีนี้ 656,000 ล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- TTB (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 1.60 บาท ราคาหุ้น Underperform ตลาดมาก YTD ติดลบ 12% ขณะที่ภาพรวมธุรกิจได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น และ TTB คาดว่าจะเป็นธนาคารที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ 20% ในปีนี้ดีสุดของกลุ่มธนาคารขนาดกลางถึงเล็ก
- CPALL (พาย) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 72.25 บาท ในช่วงไตรมาส 3/65 คาดว่ารายได้จะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับปีก่อนเพราะ 1.รวมงบโลตัสเข้ามา 2.ไม่มีล๊อคดาวน์ ส่วนการเทียบกับไตรมาส 2/65 อาจจะออกมาแค่ทรงตัวเนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน นอกจากนี้ในระยะสั้นมีปัจจัยหนุนจากการปรับขึ้นค่าแรงของภาครัฐ ที่จะเข้าพิจารณาในวันนี้
- DCC (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 3.3 บาท 1) Sentiment บวกจากคาดการณ์หลังน้ำท่วมจะเห็นการซื้อสินค้ากลับมาซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ 2)เราคาดกำไรจะฟื้นตัวชัดเจนในงวดไตรมาส 4/65 เป็นต้นไป ส่วนงวดไตรมาส 3/65 เริ่มเห็นแรงกดดันจากต้นทุนพลังงานและต้นทุนวัตถุดิบจะลดลง ทั้งราคาก๊าซธรรมชาติ 3)บริษัทฯมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจราว 6.5%