LIVE เล็งแผนใช้เงินออกวอร์แรนท์ซื้อ-ขยายธุรกิจใน-ตปท.เสนอผถห.ปลายเม.ย.

          บมจ.ไลฟ์อิน คอร์ปอเรชั่น(LIVE) เตรียมแผนขยายธุรกิจจากเงินที่จะระดมทุนผ่านวอร์แรนท์กว่า 3 พันล้านบาท เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 30 เม.ย.หลากหลายแนวทางทั้งการลงทุนบริษัทจดทะเบียนในตลาดและบริษัทนอกตลาด ขยายธุรกิจและโครงการใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งกันบางส่วนเป็นเงินทุนหมุนเวียน มั่นใจปีนี้กำไรต่อเนื่องหลังแก้ปัญหาธุรกิจได้และโครงสร้างชัดเจนขึ้น
          นายศิวะพร ชมสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LIVE กล่าวกับ"อินโฟเควสท์" ว่า แผนงานที่ฝ่ายบริหารคิดอยู่ยังมีหลายอย่าง รวมทั้งแนวคิดที่จะซื้อสโมสรฟุตบอลต่างประเทศ ก็เป็นไอเดียหนึ่ง แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่จะเลือกแนวทางใด เพราะดีลยังไม่จบ นอกจากนั้นยังต้องรอการพิจารณาที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อน 
          "เงินที่ได้จะลงทุนในและนอกตลาดหลักทรัพย์ โครงการในและต่างประเทศ...เงินที่นำไปลงทุนในบริษัทในและนอกตลาดปีนี้ ยังไม่ได้สรุปออกมาแต่ขึ้นอยู่กับโอกาสและแนวทางที่เรามองธุรกิจ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นมีเดีย" นายศิวะพร กล่าว 
          LIVE ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ(วอร์แรนท์) จำนวน 2.3 พันล้านหน่วย ขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนท์ กำหนดราคาขาย 0.50 บาท/หน่วย ราคาใช้สิทธิ 1 บาท/หุ้น 
          นายศิวะพร กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าข้อเสนอระดมทุนครั้งนี้เป็นข้อเสนอที่ดี แม้ว่าจะเป็นการเสนอขายวอร์แรนท์ที่ 0.50 บาท เนื่องจากมองว่าของดีไม่มีฟรี ส่วนจะขายถูกหรือแพงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนกรณีที่ราคาหุ้นผันผวนในช่วงบ่ายหลังจากบริษัทประกาศการออกวอร์แรนท์ไปแล้วนั้น หากพื้นฐานดีก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล 
          ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในปีนี้รายได้จะเติบโตขึ้นราว 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 400 ล้านบาท และน่าจะมีกำไรต่อเนื่องจากปีก่อน แม้ว่ากำไรส่วนใหญ่ในปี 50 จะมาจากการขายหลักทรัพย์หรือการลงทุนในหุ้น แต่ในปีนี้กำไรจะมาจากการดำเนินธุรกิจที่มีทิศทางที่ดีขึ้นมาก เนื่องจากบริษัทได้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ และโครงสร้างธุรกิจก็มีความชัดเจน 
          "คงมีการเจริญเติบโต 0-15% โดยประมาณ แต่ขึ้นอยู่กับโครงการใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น คงจะไม่แย่ไปกว่าปีที่แล้ว โดยรายได้หลักมาจาก business unit ที่เรามีอยู่ รวมทั้งโครงการใหม่ที่ยังเปิดเผยไม่ได้"นายศิวะพร กล่าว 
          สำหรับโครงการที่บริษัทดำเนินการไปแล้ว คือการสร้างภาพยนตร์ ซึ่งรายได้ก็จะเข้ามาในช่วงไตรมาส 3/51 โดยมีภาพยนตร์ที่เพิ่งสร้างเสร็จ 2 เรื่อง กำลังรอดูว่าโอกาสในการทำรายได้จะมีมากน้อยแค่ไหน โดยอยู่ระหว่างเจรจาขายให้กับสายหนังต่างประเทศ คือ เรื่อง The Coffin ซึ่งเป็นหนังร่วมทุนระหว่างไทย สิงคโปร์ และฮ่องกง ถ่ายทำเรียบร้อยแล้วกำลังตัดต่อ คาดว่าจะเข้าฉายประมาณไตรมาส 3/51 อีกเรื่องหนึ่ง PREY ร่วมทุนกับออสเตรเลีย ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้วคาดว่าจะเข้าฉายไตรมาส 3/51 เช่นกัน