ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (28 มี.ค.) หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวของยอดการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.พ.อ่อนแอที่สุดในรอบ 17 เดือน นอกจากนี้ ตลาดยังมีแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ในเชิงลบถึงผลกำไรรายไตรมาสของเจ.ซี เพนนีย์ โค บริษัทผู้ค้าปลีกของสหรัฐ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดทรุดตัวลง 86.06 จุด หรือ 0.70% แตะระดับ 12,216.40 ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 10.54 จุด หรือ 0.80% แตะระดับ 1,315.22 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 19.65 จุด หรือ 0.86% แตะระดับ 2,261.18 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 3.59 พันล้านหุ้น โดยมีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.พ.ขยับขึ้นเพียง 0.1% ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และนอกจากตัวเลขการใช้จ่ายที่อ่อนแอแล้ว การที่เจ.ซี เพนนีย์ออกมาคาดการณ์ถึงผลประกอบการไตรมาสแรกที่มีแนวโน้มลดลงยังได้จุดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคขึ้นอีกระลอก
บรรยากาศการซื้อขายในวันนี้ค่อนข้างเหงียบเหงา หลังจากที่ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนโดยแกว่งตัวขึ้นปิดในแดนบวกเมื่อช่วงต้นสัปดาห์และปิดร่วงลงส่งท้ายปลายสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนเริ่มคลายความวิตกกังวลต่อผลกระทบจากวิกฤติสินเชื่อที่มีต่อตลาดเงิน และกลับมามองถึงภาวะเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น
แจ็ค คาฟเฟรย์ นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน ไพรเวท แบงค์กล่าวว่า "บรรยากาศการซื้อขายในวันนี้ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนยังสงวนท่าทีในการเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดก่อนหน้าที่บริษัทหลายแห่งจะเริ่มรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกในเดือนเม.ย. ส่งผลให้ทำให้ตลาดเหงียบเหงาและมีวอลุ่มการซื้อขายเบาบาง"
นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการรายงานในสัปดาห์หน้า เพื่อนำมาพิจารณาว่าแท้จริงแล้วเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วหรือไม่ ทั้งนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจับตารายงานตัวเลขจ้างงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐในวันศุกร์หน้า ซึ่งนักวิเคราะห์จากโพลล์ของธอมสัน/ไอเอ็ฟอาร์คาดว่าจะปรับตัวลดลงประมาณ 50,000 ตำแหน่ง ต่อเนื่องจากที่ร่วงลง 63,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.และคาดว่าตัวเลขว่างงานจะเพิ่มขึ้นแตะที่ 5% จากระดับ 4.8% ในเดือนก.พ.
เจ.ซี เพนนีย์ บริษัทค้าปลีกคาดการณ์ว่าผลกำไรไตรมาสแรกจะอยู่ที่ 50 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งลดลงจากที่ตั้งเป้าในก่อนหน้านี้ที่ 75-80 เซนต์ต่อหุ้น ส่งผลให้หุ้นเจ.ซี เพนนีย์ร่วงลง 7.5% และฉุดให้หุ้นกลุ่มค้าปลีกอื่นๆร่วงลงตามมา โดยหุ้นโคลห์สคอร์ปิดดิ่งลง 4.9% หุ้นมาซีย์ อิงค์ทรุดตัวลง 5.9% และหุ้นนอร์ดสตอร์มปิดลดลง 5.7%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล โทร.0-2253-5050 อีเมล์: orasa@infoquest.co.th--