(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ คลายกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง,ราคาน้ำมันดีดกว่า 1%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 15, 2022 09:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ โดยแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้าปรับตัวลดลง ซึ่งนักลงทุนให้น้ำหนักการปรับขึ้นดอกเบี้ยมาอยู่ที่ระดับ 0.75% มากขึ้น จากวานนี้ที่ให้น้ำหนักที่ระดับ 1.00% หลังจากตัวของดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตของสหรัฐที่ออกมาชะลอตัวลดลง

นอกจากนี้จะมีแรงหนุนเข้ามาบ้างจากกลุ่มพลังงาน และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นมากว่า 1% แต่อย่างไรก็ตามภาพระยะยาวการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันแรงๆ เป็นไปได้ยากแล้ว เนื่องจากนักลงทุนให้น้ำหนักของการชะลอตัวของเศรษฐกิจมากกว่า จะส่งผลให้ราคาน้ำมันพักฐานและซึมตัวลงต่อได้

พร้อมให้แนวรับที่ 1,640 จุด และ 1,635 จุด แนวต้าน 1,660-1,665 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (14 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,135.09 จุด เพิ่มขึ้น 30.12 จุด หรือ + 0.10%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,946.01 จุด เพิ่มขึ้น 13.32 จุด หรือ +0.34% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,719.68 จุด เพิ่มขึ้น 86.10 จุด หรือ +0.74%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,873.96 จุด เพิ่มขึ้น 55.34 จุด หรือ +0.20%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 18,833.90 จุด ลดลง 13.20 จุด หรือ -0.07% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,248.97 จุด เพิ่มขึ้น 11.43 จุด หรือ +0.35%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (14 ก.ย.65.) ที่ระดับ 1,656.58 จุด ลดลง 4.51 จุด, -0.27%
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,084.34 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ก.ย.65
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.(14 ก.ย.) เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 88.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (14 ก.ย.) อยู่ที่ 3.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 36.63 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากวานนี้ ตลาดรอปัจจัยใหม่ ให้กรอบวันนี้ 36.55-36.75 บาท/ดอลลาร์
  • กูรูชี้แบงก์ชาติเผชิญโจทย์หิน ทาง 2 แพร่ง "ขยับดอกเบี้ย" สู้เงินเฟ้อ ท่ามกลางแรงกดดันทางด้านเศรษฐกิจ-หนี้ครัวเรือน หลังเงินเฟ้อ สหรัฐเดือน ส.ค.พุ่งเกินคาดแตะ 8.3% กดดันเฟดขึ้นอาจดอกเบี้ยแรง ทุบตลาดหุ้น ร่วงระนาว ขณะที่ทิศทางค่าบาทอ่อนยาว
  • บอร์ดกสทช.รอเพียงความเห็นกฤษฎีการอบสุดท้าย ก่อนรวมเอกสารตัดสินดีลควบรวมทรู-ดีแทค คาดหากเอกสารมาถึงสำนักงานฯภายในสัปดาห์นี้ เตรียมเรียกประชุมวาระพิเศษทันที คาดที่ต้องเร่งรีบเพราะมีคนฟ้องศาลฯรอให้ทุเลาคำสั่งกสทช.อีกรอบ
  • "ส.อ.ท." เกาะติดน้ำท่วมใกล้ชิดหวั่นโดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจหวั่นกระทบห่วงโซ่การผลิตฉุดรั้งการส่งออก แนะรัฐบริหารจัดการภาพรวมหลังสัญญาณโลกรวนเตือนแรง ทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง ทั่วโลก ด้านสถาบันน้ำฯ ส.อ.ท. ร่วมเครือข่ายทำงานภาครัฐใกล้ชิดเช็กปริมาณน้ำในเขื่อน แม่น้ำสายต่างๆ ระบบแก้มลิง ยังมีพื้นที่ว่างรับน้ำได้เพิ่มอีกมากมั่นใจไม่ท่วมรุนแรงเหมือนปี'54
  • รัฐบาลปลื้ม! 9 เดือนนักท่องเที่ยว ต่างชาติแห่เที่ยวไทยกว่า 5.01 ล้านคน ททท.ฟันธงถึงสิ้นปีไทยจะมียอดต่างชาติมาเที่ยวเพิ่มขึ้น 9-10 ล้านคน สร้างรายได้ ไม่ต่ำกว่า 1.2 ล้านล้าน ตามเป้าหมาย ทั้งหมดเป็นไปตามมาตรการของรัฐ
  • BEM พร้อมเดินหน้ารถไฟฟ้าสายสีส้ม ยันไม่กังวล มั่นใจข้อเสนอเป็นประโยชน์ต่อรัฐ ด้าน "ศักดิ์สยาม" แจงการตัดสินผู้ชนะจากทุกข้อเสนอราคาไม่เป็นตัวชี้วัดหลักประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

*หุ้นเด่นวันนี้

  • JMART (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า IAA Consensus 64.40 บาท ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่องในไตรมาส 3/65 และไตรมาส 4/65 ธุรกิจมือถือเข้าสู่ High season ขณะที่กลุ่มธุรกิจของบริษัทลูก JMT SINGER ยังเติบโตต่อเนื่อง วันนี้มี Sentiment บวก Apple ให้ไทยขึ้น Tier 1 ขาย iPhone14 พร้อมอเมริกาได้ 16 ก.ย.นี้
  • BRR (ดาโอ) "ซื้อ" เป้าเชิงกลยุทธ์ 10.50 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/65 จะพีคตามการเข้าสู่ฤดูเปิดหีบอ้อยในเดือน ต.ค. หนุนรายได้จากการขายน้ำตาลและโมลาส เข้าสู่ Peak Season ขณะที่เงินบาทอ่อนค่ากว่า 10%YTD คาดราคาส่งมอบน้ำตาลในช่วงครึ่งปีหลังเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 35-36 บาท/ดอลลาร์, ธุรกิจบรรจุภัณฑ์เริ่ม Break Even (U-Rate 50%) ในเฟส 1 คาดจะเริ่มรวมเข้ามาในงบตั้งแต่ไตรมาส 4/65 ส่วนการเข้ามาของกลุ่ม JMART จะต่อยอดธุรกิจสินเชื่อและค้าปลีก

ในปี 66 เตรียมรุกธุรกิจ Wood Pallet (เชื้อเพลิงชีวมวล) หลังปีนี้ได้ที่ดินในลาวและสุรินทร์มา 6 หมื่นไร่ บวกกับสัญญาซื้อกับคู่ค้าญี่ปุ่น 15 ปี

  • NSL (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 23.50 บาท คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัวหลัง Reopening โดยยอดขายสินค้าเบเกอรี่ที่มีสัดส่วนรายได้กว่า 90% ล้อไปตาม Traffic ของ 7-11 (นักเรียน พนักงาน Office และชาวต่างชาติ) นอกจากนี้ยังมีการออกสินค้าใหม่และทำโปรโมชั่นผ่าน ช่องทาง Delivery ช่วยหนุนการขาย ประกอบกับมีการปรับขึ้นราคาสินค้าบางรายการเพื่อ ชดเชยต้นทุน แป้งสาลี เนื้อสัตว์ น้ำมันปาล์ม ค่าขนส่ง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นทยอยปรับตัวดีขึ้นและน่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้นในไตรมาส 4/65 ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 65 ที่ราว 260 ล้านบาท +36%YoY และปี 66 ที่ 313 ล้านบาท +20%YoY
  • SC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 4.60 บาท โมเมนตัมกำไรครึ่งปีหลังแข็งแกร่ง คาดเติบโตทั้ง Q-Q และ Y-Y ทุกไตรมาส ยอดPresales 3QTD ยังดีมากโดยเฉพาะบ้านระดับ 10 ล้านขึ้นไป การรับรู้รายได้หนุนจากทั้งโครงการแนวราบที่แข็งแรงและการโอนคอนโดใหม่ 3 โครงการในไตรมาส 4/65

เราคาดกำไรปี 65 โต 15% Y-Y ทำ New High ต่อเนื่องจากปีก่อน และยังมองบวกจากฐานลูกค้าที่เป็นระดับกลาง-บน ซึ่งมีกำลังซื้อ ดีและกระทบจำกัดจากประเด็นเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น แนวรับ 3.70 บาท แนวต้าน 3.96-4, 4.10 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ