ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 มี.ค.) จากแรงเทขายหุ้นในกลุ่มธุรกิจสร้างบ้าน หลังจากที่เนชั่นไวด์เปิดเผยว่า ราคาบ้านในเดือนมีนาคมลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และคาดว่าราคาบ้านจะร่วงลงอย่างต่อเนื่องในปีนี้
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 24.60 จุด แตะระดับ 5,692.9 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,673.7- 5,747.2 จุด มีปริมาณการซื้อขายเบาบางเพียง 2 พันล้านหุ้น
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดอ่อนตัวลง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นนิวยอร์กหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.พ.ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 17 เดือน โดยขยับขึ้นเพียง 0.1% ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่การคาดการณ์ในเชิงลบต่อผลประกอบการรายไตรมาสของเจ.ซี เพนนีย์ โค ได้สร้างความวิตกกังวลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคและกดดันให้นักลงทุนชะลอการลงทุนในตลาด
ทิม ฮิวจ์ นักวิเคราะห์จากบริษัทไอจี อินเด็กซ์กล่าวว่า "บรรดาเทรดเดอร์ต่างมองว่าการพุ่งขึ้นของดัชนี FTSE เริ่มอ่อนแรงลงแล้ว หลังจากที่เห็นว่าตลาดหุ้นสหรัฐมีแรงกดดันจากการเทขายในช่วงก่อนหน้านี้"
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มบลูชิพร่วงลงทั่วทั้งกระดาน ซึ่งนำโดยหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านอย่างหุ้นเพอร์ซิมมอนที่ร่วงลงหนักสุด 40 เพนซ์ หลังจากที่ผลสำรวจของเนชั่นไวด์ระบุว่า ราคาบ้านในเดือนมีนาคมลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และคาดว่าราคาบ้านจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
หุ้นบาร์เรตต์ เดเวลอปเม้นท์ปิดลดลง 27 เพนซ์ หลังจากที่บริษัทพานมัวร์ กอร์ดอน ปรับลดน้ำนักความน่าลงทุนของกลุ่มบริษัทดังกล่าวจากระดับ 'hold' มาอยู่ที่ 'sell' โดยให้เหตุผลว่าราคาบ้านที่ลดลงต่อเนื่องอาจทำให้บริษัทต้องตั้งบัญชีสำรองหนี้สูญในช่วงปลายปีนี้
นอกจากนี้ หุ้นบริติช แอร์เวย์ปิดลดลง 7 เพนซ์ หลังจากสายการบินประกาศยกเลิกเที่ยวบิน 34 เที่ยว หลังเกิดเหตุความวุ่นวายในวันแรกของการเปิดให้บริการอาคารที่พักผู้โดยสารแห่งใหม่ในท่าอากาศยานฮีทโธรว์
ด้านหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินได้รับแรงกดดันท่ามกลางความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ว่า เลห์แมน บราเธอร์สจะตกเป็นเหยื่อของวิกฤติสินเชื่อรายล่าสุด ซึ่งความวิตกกังวลดังกล่าวกดดันให้หุ้นลอยด์ ทีเอสบีตกลง 8 เพนซ์ และหุ้นเอชบีโอเอสร่วงลง 17 เพนซ์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล โทร.0-2253-5050 อีเมล์: orasa@infoquest.co.th--