ตลาดหลักทรัพย์ ปิดช่วงเช้าที่ 1,635.95 จุด ลดลง 6.38 จุด (-0.39%) มูลค่าการซื้อขายราว 37,944.13 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นเช้านี้ดัชนีปรับตัวลงตลอดช่วงเช้า ทำระดับสูงสุด 1,642.73 จุด และต่ำสุด 1,631.35 จุด
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ หลังจากที่ธนาคารโลก และ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกมาเตือนภาวะเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยหลังจากธนาคารกลางทั่วโลกเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อที่จะสกัดการเร่งตัวขึ้นของเงินเฟ้อ นอกจากนี้ยังกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21-22 ก.ย.
ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ดิ่งลงเกือบ 4% จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย เป็นปัจจัยกดดันต่อกลุ่มพลังงานและโรงกลั่น ในขณะเดียวกันเงินทุนต่างชาติยังคงไหลออกมาต่อเนื่อง หลังจากที่เงินบาทอ่อนค่าสุดรอบ 16 ปี และ FTSE Rebalance ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยที่จะมีผล ณ ราคาปิดตลาดเย็นนี้
สำหรับทิศทางดัชนีตลาดหุ้นในช่วงบ่าย คาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์นักลงทุนจะมีการขายเพื่อที่จะลดความเสี่ยงในช่วงวันหยุด
โดยให้แนวรับที่ 1,630 จุด และ 1,627 จุด แนวต้าน 1,640-1,642 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,689.10 ล้านบาท ปิดที่ 166.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,480.00 ล้านบาท ปิดที่ 13.80 บาท ลดลง 0.20 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,401.52 ล้านบาท ปิดที่ 598.00 บาท เพิ่มขึ้น 14.00 บาท
MINT มูลค่าการซื้อขาย 1,302.35 ล้านบาท ปิดที่ 27.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
TLI มูลค่าการซื้อขาย 1,267.55 ล้านบาท ปิดที่ 16.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท