(เพิ่มเติม) TGCIเผย"เซรามิคซิเมนต์ไทย"เข้าร่วมทุน พร้อมทำเทนเดอร์ราคา 1.45 บ./หุ้น

          บมจ.ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ (TGCI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติรับทราบข้อเสนอในการเข้าเป็นผู้ร่วมทุนในบริษัทฯ จาก บริษัท เซรามิคซิเมนต์ไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบมจ.ซิเมนต์ไทย (SCC) ในการเป็นผู้ร่วมทุนในบริษัทฯ โดยการเสนอซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ จำนวน 196,233,602 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 19.9 ของทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ 
          และอนุมัติกำหนดให้เซรามิคซิเมนต์ไทยเป็นผู้มีสิทธิในการซื้อคืนหุ้นที่มีการแปลงหนี้เป็นทุน จำนวน 196,233,602 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 19.9 ของทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากธนาคารนครหลวงไทย (SCIB)ตามที่กำหนดในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างบริษัทฯ กับธนาคาร นครหลวงไทย ลงวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2550  ซึ่งจะนำเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณารับทราบและอนุมัติต่อไป 
          รวมทั้งมีมติอนุมัติเพื่อกำหนดให้เซรามิคซิเมนต์ไทยเป็นบุคคลที่มีสิทธิในการซื้อหุ้นของบริษัทฯ เป็นจำนวน 196,233,602 หุ้น ซึ่งถือโดยธนาคารนครหลวงไทยตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ โดยบริษัทฯ มีหนังสือแจ้งการกำหนดให้เซรามิคซิเมนต์ไทย เป็นผู้มีสิทธิในการซื้อคืนหุ้นดังกล่าวถึงธนาคารนครหลวงไทย แล้ว 
          และให้นายวงศ์วุฒิ วุฑฒินันท์ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 256,385,600 หุ้นกับบริษัทฯ ตามสัญญาซื้อขายหุ้นที่เซรามิคซิเมนต์ไทยเห็นชอบ
          เซรามิคซิเมนต์ไทยต้องได้รับโอนกรรมสิทธิ์และส่งมอบหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 256,385,600 หุ้นจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่พร้อมกับการรับโอนกรรมสิทธิ์และส่งมอบหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 196,233,602 หุ้น ที่เซรามิคซิเมนต์ไทยจะใช้สิทธิซื้อจากธนาคารนครหลวงไทย ซึ่งเป็นผลให้เซรามิคซิเมนต์ไทยได้รับการโอนหุ้นของบริษัทฯ รวมเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 452,619,202 หุ้น หรือเท่ากับ 45.9 % ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯทั้งนี้ เงื่อนไขทั้ง 3 ข้อดังกล่าวข้างต้น ต้องเสร็จสิ้นสมบูรณ์ภายในวันที่ 10 พฤษภาคม 2551     
          นอกจากนี้ หากเซรามิคซิเมนต์ไทยได้รับการโอนหุ้นเรียบร้อยแล้ว เซรามิคซิเมนต์ไทยจะทำคำเสนอซื้อหุ้นของบริษัทฯ 
จากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไปในราคาหุ้นละ 1.45 บาท     
          คณะกรรมการบริษัทอนุมัติแก้ไขแผนการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทให้กับเจ้าหนี้ของบริษัทซึ่งประกอบด้วย ธนาคารทหารไทย (TMB) ธนาคารไทยพาณิชย์  (SCB) และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำ (BAY) และการขายทรัพย์สินของบริษัทฯ ตามแผนการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทให้กับเจ้าหนี้ที่ได้มีการแก้ไข ซึ่งมีมูลค่าจำนวน 1,906.046  ล้านบาท
          พร้อมทั้งอนุมัติในหลักการในการออกหุ้นกู้แปลงสภาพเพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัททุกรายตามสัดส่วนการถือหุ้นใน
บริษัทฯ ในวงเงินไม่เกิน 1,200,000,000 บาท เนื่องจากบริษัทฯมีความจำเป็นต้องระดมเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อนำเงินบางส่วนมาชำระหนี้สถาบันการเงินตามแผนการปรับโครงสร้างหนี้ และบางส่วนมาใช้หมุนเวียนในการดำเนินกิจการต่อไป
          ขณะที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อนุญาตให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ TGCI โดยปลดเครื่องหมาย SP ตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าของวันที่ 31 มีนาคม 2551 เป็นต้นไป