หุ้น ANAN พุ่ง 9.38% มาอยู่ที่ 1.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท มูลค่าซื้อขาย 245.49 ล้านบาท เมื่อเวลา 14.33 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.27 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.48 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.27 บาท
แหล่งข่าวจาก บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) เปิดเผยว่า วันนี้ศาลปกครองสูงสุดนัดพิจารณาครั้งแรกในคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนยื่นฟ้องขอเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างอาคารโครงการแอชตัน อโศก และขอให้เพิกถอนใบอนุญาตที่ให้โครงการดังกล่าวใช้ที่ดินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นทางเข้า-ออก สู่ถนนอโศกมนตรี ซึ่งยังไม่มีผลการพิจารณาออกมาในวันนี้ โดยจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดต่อไป
ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาเพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายอาคาร หรือเปลี่ยนการใช้อาคาร โดยให้มีผลย้อนหลังถึงวันที่ออกหนังสือทุกฉบับในกรณีดังกล่าว
แหล่งข่าว กล่าวว่า วันนี้ตุลาการผู้แถลงคดีระบุความเห็นว่าศาลฯ ควรยกฟ้องบริษัท หลังจากรับฟังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการที่ รฟม. อนุญาตให้โครงการแอชตัน อโศก ใช้ที่ดินที่เวนคืนเป็นทางเข้าออกขยายถนน สอดรับกับกฎหมายควบคุมอาคาร และเป็นการดำเนินการโดยชอบ ซึ่งทนายความของบริษัทมองว่าถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ตุลาการผู้แถลงคดีเห็นว่าคำให้การของบริษัทนั้นฟังขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปก่อนสิ้นปีนี้
"ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีต่อบริษัท ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และลูกบ้านของโครงการแอชตัน อโศก ทุกคน ยังเชื่อว่าเราทุกคนจะได้รับความยุติธรรม และคาดหวังว่ากระบวนการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดน่าจะได้มีคำตัดสินออกมาภายในปีนี้"แหล่งข่าว กล่าว
อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์ของ บล.กรุงศรี คาดว่าศาลปกครองสูงสุดจะยืนตามคำตัดสินของศาลชั้นต้นว่า รฟม. ไม่มีสิทธิอนุญาตให้ ANAN นำพื้นที่สาธารณะไปใช้ประโยชน์ ดังนั้น ใบอนุญาตก่อสร้างของโครงการ Ashton จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย แนวทางถัดไปเราคาดว่า ANAN จะยื่นฟ้อง รฟม. และ กทม. เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและกรณีเลวร้าย อาจต้องตั้งสำรอง 5-6 พันล้านบาท ตามมูลค่าโครงการที่ 6.5 พันล้านบาท สำหรับกรณีนี้คดีความน่าจะข้อสรุปภายในสิ้นปี
ถึงแม้ว่าราคาหุ้นจะมี discount อย่างมากเมื่อเทียบมูลค่าทางบัญชี แต่ยังคงคำแนะนำแค่ "ถือ" ANAN โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 1.40 บาท เพราะมองว่าผลประกอบการยังมีแนวโน้มอ่อนแอ และมีความเสี่ยงเรื่องคดีความศาลปกครองสูงสุดที่เริ่มไต่สวนนัดแรกคดี Ashton Asoke ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลปกครองชั้นต้นมีคำพิพากษาในคดีนี้ไปเมื่อปีที่แล้วให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างของโครงการ Ashton Asoke ซึ่งส่งผลกระทบกับ ANAN และลูกค้าอีกกว่า 600 ราย ดังนั้น ANAN และลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจึงยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว
หลังจากกรณีพิพาทที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนาน คาดว่าคดีนี้จะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ โดยคาดว่าศาลปกครองสูงสุดจะพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น หากเป็นเช่นนั้นเชื่อว่า ANAN น่าจะยื่นฟ้อง รฟม. และ กทม. เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากคดีนี้ อย่างไรก็ตาม เราคิดว่าการดำเนินการดังกล่าวยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะได้ข้อสรุป โดยในกรณีเลวร้ายที่สุด ANAN อาจจะต้องตั้งสำรอง 5-6 พันล้านบาทสำหรับการฟ้องร้องของโครงการ Ashton Asoke (มูลค่าโครงการ 6.5 พันล้านบาท) เพื่อจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกค้าซึ่งจะทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมาก
ขณะที่ผลประกอบการมีแนวโน้มอ่อนแอ โดย ANAN มีผลขาดทุนต่อเนื่องมา 4 ไตรมาสติดต่อกันแล้ว เพราะไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่พร้อมโอน โดย ANAN มีกำหนดจะโอน 3 โครงการใหม่ในปีนี้ แต่ผลประกอบการจะยังเปราะบางอยู่ นอกจากนี้ บริษัทยังมีความเสี่ยงที่อาจจะต้องตั้งสำรองก้อนใหญ่จากคำพิพากษาศาลในคดี Ashton อโศกอีกด้วย