บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ มีมุมมองเป็นบวกจากประเด็นที่วานนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบขยายเวลาปรับขึ้นอัตราภาษีความหวานตามปริมาณน้ำตาลระยะที่ 3 ออกไปอีกเป็นเวลา 6 เดือน ถึง 31 มี.ค.2566 โดยจะเริ่มเก็บอัตราภาษีใหม่ตั้งแต่ 1 เม.ย.2566 เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนในปัจจุบัน รวมถึงช่วยให้อุตสาหกรรมเครื่องดื่มมีระยะเวลาในการปรับตัวเพื่อรองรับการปรับขึ้นอัตราภาษีความหวานตามปริมาณน้ำตาลระยะที่ 3 ต่อไป
บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) ได้ประโยชน์มากสุด ปัจจุบันเครื่องดื่มชูกำลัง "คาราบาวแดง" เสียภาษีความหวานอยู่ที่ 0.10 บาทต่อ 100 ml หรือ 0.015 บาท/ขวด ซึ่งหากไม่เลื่อน CBG จะต้องเสียภาษีในอัตราใหม่ที่ 0.3 บาท 100 ml หรือ ที่ 0.045 บาท/ขวด เนื่องจาก CBG มีการปรับสูตรเพิ่มน้ำตาลเพื่อให้รสชาติดีขึ้นในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา (จากเดิมที่ไม่เสียภาษีน้ำตาล เนื่องจากปริมาณน้ำตาลอยู่ที่ 0-6 กรัม/100 ml) คาดส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิของ CBG ไตรมาสละ 9 ล้านบาท หรือเป็น upside ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2566 ของเราที่ 0.3%
สำหรับ บมจ.โอสถสภา (OSP) เรามองว่าไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเครื่องดื่มที่เป็นรายได้หลัก คือ M-150 ปัจจุบันไม่เสียภาษีน้ำตาล เนื่องจากน้ำตาลอยู่ที่ 0-6 กรัมต่อ 100 ml. สำหรับกลุ่มเครื่องดื่ม เรายังคงให้น้ำหนัก "เท่ากับตลาด"
เราเลือก CBG เป็น Top pick แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 115.00 บาท อิง 2022E PER 39.0x (-0.25 SD below 5-yr avg PER) ราคาหุ้น underperform SET -11% ใน 1 เดือนที่ผ่านมา สะท้อนปัจจัยลบจากแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/65 ชะลอตัวไปพอสมควรแล้ว ปัจจุบัน CBG เทรดอยู่ที่ 2565 PER 32.0x (-0.75SD below 5-yr avg PER) มองว่าราคาปัจจุบันน่าสนใจ อีกทั้งยังมี upside จากสินค้าใหม่และโครงการปรับลดต้นทุน packaging ซึ่งจะเห็นผลกระทบเชิงบวกชัดเจนในปี 2566