นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส (RS) กล่าวว่า บริษัทเตรียมนำเหรียญดิจิทัล Popcoin ลิสต์เข้าสู่กระดานซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของโลก อย่าง XT.COM ในวันที่ 23 ก.ย.นี้ เพื่อขยายฐานผู้ใช้งานทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้ Popster ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสามารถเข้าถึงการใช้งานและได้รับประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ พร้อมเติมเต็ม Ecosystems ของ Popcoin ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
RS เชื่อว่าการที่ Popcoin ได้เข้าไปลิสต์บนกระดานระดับ International Exchange ในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการขยาย Ecosystem ของเหรียญให้เติบโตมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ได้มองแค่ในประเทศไทยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การออกแบบฟีเจอร์การใช้งาน รวมถึงคอนเทนต์และสิทธิพิเศษของโปรเจคต่างๆ บน Popcoin นั้นยังคงเป็นไปตาม Business model ที่ได้วางแผนไว้ โดยความคืบหน้าจะมีให้เห็นตลอดปีนี้และปีหน้า ซึ่งจะช่วยให้ Popcoin Community เติบโตอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
"จุดยืนในการทำเหรียญดิจิทัลของ อาร์เอส ไม่ได้เน้นการสร้างเหรียญเพื่อเก็งกำไรหรือสร้างความหวือหวาให้กับนักลงทุน แต่ให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมาสร้างประโยชน์ให้กับ Ecosystem ในการทำธุรกิจของเราและพาร์ทเนอร์ในระยะยาว ดังนั้น Popcoin จึงเป็น สมาร์ท มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์ม ที่ไม่ใช่แค่เหรียญคริปโตเคอร์เรนซีเท่านั้น แต่เป็นคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงคนแต่ละกลุ่มคนเข้าด้วยกันด้วยโมเดล "Join to Earn" แค่เข้ามามีส่วนร่วมกับเรา ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ ผู้สร้างคอนเทนต์ หรือผู้บริโภค ก็จะมีโอกาสใหม่ๆ ทางการตลาด หรือสร้างผลประโยชน์ที่มากกว่า
8 เดือนตั้งแต่ที่เราจัดงานเปิดตัวไป เรามี Popster กว่า 800,000 บัญชี มีการกระจายเหรียญออกมาแล้วกว่า 900 ล้านโทเคนดิจิทัล โดยสัดส่วนการกระจายเหรียญมาจากแคมเปญการตลาดของกลุ่มพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของ Popcoin ที่ใช้ในการทำกิจกรรมกับกลุ่มเป้าหมาย และวันนี้ Popcoin พร้อมแล้วที่จะเข้าสู่กระดานเทรดระดับ International Exchange นับเป็นอีกก้าวสำคัญของ Popcoin ในการเติมเต็ม Ecosystem ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น" นายสุรชัย กล่าว
นายฐณณ ธนกรประภา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ โฟร์ท แอปเปิ้ล กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา Popcoin ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในกิจกรรมทางการตลาดกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่ใช้ Popcoin เพื่อทำกิจกรรมกับกลุ่มเป้าหมาย อาทิ แบรนด์ในเครืออาร์เอส กรุ๊ป ที่ได้นำ Popcoin ไปช่วยกระตุ้นยอดขาย และต่อยอดในเรื่องการสร้าง Brand awareness ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยวัดได้จากจำนวน Line@ และยอดผู้ติดตามทางโซเชียลมีเดียที่เพิ่มจำนวนขึ้น
รวมไปถึงการที่แบรนด์นำ Popcoin ไป plug กับการทำ TikTok challenge ทำให้เกิดยอด participate เพิ่มสูงขึ้นในระยะเวลาไม่ถึงเดือน เมื่อเทียบกับกิจกรรมที่ไม่ได้เข้าร่วมกับ Popcoin นอกจากนี้ ยังช่วยให้แบรนด์สามารถรวบรวมสมาชิก (Recruit membership) ได้ตามเป้าหมาย โดย Achieve KPI ที่ตั้งไว้ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ เป็นต้น
สำหรับแผนงานในอนาคตของ Popcoin นั้น ได้วางแผนร่วมงานกับศิลปินไทยและเกาหลีมากมาย ทั้งในรูปแบบการผลิตคอนเทนต์ กิจกรรมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ และคอนเสิร์ต ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับเหล่า Popster เช่น
VIBE : รายการเรียลลิตี้การแข่งขันค้นหาคลื่นลูกใหม่ ผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถในการร้องเพลง การแรป หรือการเต้น ที่มีผู้บริหารค่ายเพลง ศิลปินเกาหลี โปรดิวเซอร์รุ่นใหม่ และ Popster เป็นผู้ตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ชนะและได้เดบิวต์เป็น Boy Group
MEN IN LIGHT : สารคดีเกี่ยวกับศิลปิน Boy Band เคป๊อปสัญชาติไทย ที่ทาง Popcoin ได้เตรียมสิทธิพิเศษเอาไว้ให้ชาว Popster โดยเฉพาะ
จากแผนงานดังกล่าว จะเป็นการขยายฐานชาว Popster ให้ครอบคลุมถึงฐานผู้ใช้งานในต่างประเทศ และเพื่อเพิ่มมูลค่า Popcoin อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ Popcoin ตัดสินใจลิสต์บนศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในต่างประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการที่ทางบริษัทฯ ได้กำหนดไว้ โดย Popcoin ได้เริ่มต้นเทรดที่ XT.com เนื่องจากเป็นเว็บเทรดคริปโตเคอร์เรนซี่และดิจิทัลโทเคนที่มีความน่าเชื่อถือ และได้รับการจัดอันดับเป็นลำดับต้นๆ ในเว็บ CoinMarketCap
สิ่งสำคัญที่สุด หลังจาก Popcoin เข้าลิสต์ใน International Exchange คือ Popcoin จะมีราคากลางที่สามารถวัดมูลค่าในการทำกิจกรรมทางการตลาดได้ นอกจากนี้ เมื่อ Popcoin มีมูลค่ามากยิ่งขึ้นจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บริโภคที่มาร่วมกิจกรรมกับบริษัท และยังช่วยให้พาร์ทเนอร์สามารถดึง Insight ของลูกค้าไปใช้ในการทำ Segmentation และนำไปทำแคมเปญการตลาดได้ดียิ่งขึ้น สำหรับพาร์ทเนอร์และแบรนด์ที่ได้ทำการซื้อ Popcoin เอาไว้แล้ว จะทำให้ Popcoin ที่แบรนด์ถือเอาไว้มีมูลค่าโดยสามารถอ้างอิงกับราคากลางและสามารถนำไปใช้ในการทำกิจกรรมทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมีโอกาสในการนำ Popcoin ไปใช้ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของตัวเองมากขึ้น สำหรับผู้สร้างคอนเทนต์ จะช่วยส่งผลดีต่อยอด Engagement ของคอนเทนต์ที่ทางผู้สร้างได้ทำการปล่อยผ่านช่องทางของ Popcoin และสำหรับผู้บริโภคที่รอคอยการเข้าเทรดของ Popcoin มาตั้งแต่ต้นปี ก็จะสามารถนำ Popcoin ไปซื้อ-ขายในกระดานตามกลไกของตลาดได้ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.65 เป็นต้นไป
นายเอก อัชวรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟิวเจอร์คอมเพเทเร่ จำกัด บริษัทผู้ร่วมพัฒนา Popcoin ได้อธิบายถึงรายละเอียดในการลิสต์ใน XT.com ว่า การโอน Popcoin ไปยังกระดานเทรดนั้นสามารถโอนไปโดยผ่าน เป๋าวาฬ (whallet) ซึ่งเป็นกระเป๋าเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลที่พัฒนาโดย ฟิวเจอร์คอมเพเทเร่ ในการเป็นตัวกลางให้ผู้ใช้งานที่อยากซื้อขาย Popcoin สามารถโอนไปยังกระดานเทรดได้
ทั้งนี้ ทีมงาน whallet มีเป้าหมายให้เกิด Mass adoption จึงออกแบบกระเป๋าออกมาให้ง่ายต่อการใช้งาน สามารถเชื่อมต่อกับตัวระบบ Popcoin ได้อย่างไร้รอยต่อ ตามวิสัยทัศน์ของ Popcoin ที่ทำออกมาเพื่อตอบโจทย์คนทุกเพศทุกวัย โดยเรามุ่งหวังว่า Popcoin และเป๋าวาฬ จะเป็นหนึ่งใน Success story ของไทยในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้งาน