NWR คาดปี 51 เห็นกำไรจากขาดทุน 1.1 พันลบ.ในปีก่อน หลังหมดภาระตั้งสำรอง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 31, 2008 12:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายวัชรพัธ วัชราภัย ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ(NWR) เปิดเผยว่า ในปี 51 บริษัทคาดว่าจะมีกำไรสุทธิจากปีก่อนที่ขาดทุน 1.1 พันล้านบาท เนื่องจากในปีนี้ไม่มีภาระต้องตั้งสำรองขาดทุนจากโครงการใดเหมือนกับปีก่อน 
"เราคาดว่าปี 51 เราจะมีกำไรเล็กน้อย ซึ่งถือว่าพอใจจากปีก่อนที่ขาดทุน 1.1 พันล้านบาท และมียอดรับรู้รายได้กว่า 4 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ 3.85 พันล้านบาท และปีนี้จะได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นแต่งานส่วนใหญ่ที่จะรับรู้รายได้ในปี 51 มีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูงกว่าปกติคือที่ระดับ 6%"นายวัชรพัธ กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 50 บริษัทต้องตั้งสำรองโครงการที่ขาดทุนทั้ง 3 โครงการหลัก คือ โครงการก่อสร้างถนนที่ลาว โครงการคอนโดมิเนียมที่สุขุมวิท และโครงการก่อสร้างที่กัมพูชา ทำให้บริษัทขาดทุนสูงถึง 1.1 พันล้านบาท
สำหรับรายได้หลักของ NWR ในปีนี้จะมาจากการรับรู้รายได้จากงานในมือ(Backlog)ที่ขณะนี้มีอยู่ 1.5 หมื่นล้านบาท โดยโครงการหลัก คือ โครงการแม่เมาะ ที่จะรับรู้รายได้ประมาณ 500 ล้านบาท และ โครงการก่อสร้างที่กัมพูชา ประมาณ 500 ล้านบาท
นอกจากนั้น ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมี Backlog เพิ่มขึ้นอีก 4 พันล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/51 บริษัทสามารถประมูลงานใหม่ได้อีก 1.34 พันล้านบาท ถือว่าสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยงานใหม่ที่จะเข้าประมูลในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าทั้งหมดประมาณ 7.7 หมื่นล้านบาท โดยงานหลักๆ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง มูลค่าโครงการ 5.4 หมื่นล้านบาท ที่จะร่วมกับพันธมิตร คือ โอบายาชิ
นายวัชรพัธ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีขาดทุนสะสม 1.47 พัน้ลานบาท ซึ่งเป็นปัญหาที่บริษัทขาดทุนต่อเนื่องมาเป็นเวาลา 10 ปี การล้างขาดทุนสะสม คงต้องใช้เวลาหลายปี หรืออย่างน้อยต้องรอให้บริษัทมียอดขายแตะหมื่นล้านบาท จึงจะมีกำไรเพียงพอต่อการล้างขาดทุนสะสม
สำหรับปัญหาต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเหล็กที่ขึ้นมา 24% จาก 24 บาท/กก.เมื่อปลายปี 50 มาเป็น 29 บาท/กก.ในขณะนี้ ทำให้บริษัทประสบปัญหากำไรขั้นต้น แต่จากการที่งานส่วนใหญ่กว่า 90% เป็นงานภาครัฐ ทำให้ได้รับการชดเชยจากการเพิ่มขึ้นจากต้นทุนการก่อสร้าง(ค่า K) ประมาณ 6% ทำให้ปีนี้บริษัทยังคาดว่าจะเห็นกำไรสุทธิได้ หากราคาเหล็กไม่ปรับตัวขึ้นมากไปกว่านี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ