นายพิจิตต์ วิริยะเมตตากุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/65 จะทำได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/65 เนื่องจากคนไข้โควิด-19 ลดลง และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม โดยเฉพาะรพ.วิภาราม จะน้อยลง แต่ยังได้ปัจจัยหนุนจากคนไข้ปกติเพิ่มขึ้น เห็นได้จากยอดผู้ป่วยใน (IPD) เข้ามารักษาค่อนข้างมาก อีกทั้งมีผู้ป่วยเด็ก เข้ามารักษามากขึ้น หลังเกิดโรคระบาดในเด็ก หรือ RSV ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยนอก (OPD) เพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้บริษัทฯ จะมีการบุ๊คกำไรจากวัคซีนโมเดอร์นา หลัก 10 ล้านบาท ในครึ่งปีหลังนี้ รวมถึงจะมีกำไรจากการขายหุ้นสามัญของ บมจ.ศิครินทร์ (SKR) ออกไปบางส่วนด้วย ซึ่งจะไปรวมอยู่ในส่วนของกำไรสะสมของบริษัท โดยบริษัทจะนำกำไรในส่วนนี้ มาจ่ายเป็นเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น และชำระคืนเงินกู้ต่อไป
ขณะที่จำนวนผู้ป่วยต่างชาติ ปัจจุบันมีสัดส่วนไม่ถึง 3% ของยอดผู้ป่วยรวม ซึ่งในส่วนนี้จะมาจากรพ.เชียงใหม่ ราม เป็นหลัก โดยเมื่อเจอผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จึงทำให้จำนวนผู้ป่วยต่างชาติลดลง ทำให้รายได้ลดลงตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามคาดว่า หากการท่องเที่ยวดีขึ้น นักท่องเที่ยวกลับมา ก็น่าจะหนุนรายได้ให้กับรพ.เชียงใหม่ ราม ปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้อัตราการใช้พื้นที่เตียง (Occupancy rate) ของโรงพยาบาลและโรงพยาบาลในเครือในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ในเดือนก.ย.65 อยู่ที่ระดับ 70% เพิ่มขึ้นจากเดือนก.ค.-ส.ค.65
นายพิจิตต์ กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายการเติบโตของผลการดำเนินงานในปีนี้ โดยปกติบริษัทฯ จะตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 10% แต่เนื่องด้วยปีก่อนมีรายได้พิเศษจากโควิด-19 ค่อนข้างมาก ทำให้คาดว่าปีนี้น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 7,873.84 ล้านบาท โดยรายได้จากโควิด-19 คาดจะลดลงประมาณครึ่งหนึ่ง หรือราว 6% ของปีก่อนที่มีรายได้ราว 12% ของรายได้รวม
ด้านการลงทุนในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ราว 1,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกใช้ไปแล้วประมาณ 500 ล้านบาท และที่เหลือจะใช้ในครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งบริษัทฯ มีแผนที่จะปรับปรุงหอผู้ป่วยและปรับปรุงห้องไอซียู รวมถึงมีแผนจะขยายแผนกสหแพทย์ ที่เน้นการบำบัดด้วยกัญชา อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในแผนการดำเนินการภายใน ซึ่งยังไม่มีการจัดตั้งขึ้นมา
สำหรับแผนการดำเนินงานในระยะยาว บริษัทฯ จะมุ่งขยายการให้บริการออกไป โดยในกลุ่มรพ.วิภาราม จะเน้น Greenfield Project หรือสร้างโรงพยาบาลใหม่ ขณะที่รพ.วิภาวดี จะทำในส่วนของการขยายแผนก ปรับปรุงอาคาร และแยกบริการการแพทย์ทางเลือก (Alternative Medicine) ออกมาเพื่อจัดตั้งเป็นอีกบริษัทหนึ่ง รวมถึงยังมีแผนขยายวอร์ดใหม่ การเพิ่มเตียง เป็นต้น
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังมีแผนนำโรงพยาบาลสินแพทย์ นครปฐม และโรงพยาบาลบางโพ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคตด้วย โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) ได้ภายใน 1-2 ปีนี้