ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,631.71 จุด ลดลง 13.58 จุด (-0.83%) มูลค่าการซื้อขาย 63,750.08 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีค่อยๆแกว่งตัวลงช่วงบ่ายปรับตัวลงไปมาก โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,647.34 จุด และระดับต่ำสุด 1,631.50 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 414 หลักทรัพย์ ลดลง 1,354 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 426 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อยๆซึมตัวลง ในทิศทางกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคที่วันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงไปราว 1% จากแรงกดดันของการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด และมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกช่วงครึ่งปีหลังชะลอตัวลง กดดันการลงทุน
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดมาในช่วงบ่ายมีการแกว่งตัวในแดนลบ ส่วนดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์เคลื่อนไหวในแดนลบเช่นกัน
ด้านทิศทางการลงทุนในสัปดาห์หน้า ยังคงต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเท่าใด โดยเบื้องต้นคาดว่าจะปรับขึ้นที่ระดับ 0.25% จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.00% แต่อย่างไรก็ตามหากปรับขึ้นที่ระดับ 0.50% สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้จะเข้ามาช่วยหนุนให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าได้
คาดว่าดัชนีสัปดาห์หน้าจะมีความผันผวนตามการประชุมของ กนง. พร้อมให้แนวรับที่ 1,620 จุด และ แนวต้าน 1,650 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
AOT มูลค่าการซื้อขาย 4,541.81 ล้านบาท ปิดที่ 73.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,041.72 ล้านบาท ปิดที่ 140.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,327.28 ล้านบาท ปิดที่ 620.00 บาท ลดลง 16.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,821.75 ล้านบาท ปิดที่ 170.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,779.80 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท