นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ในปีนี้คาดว่าจะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ไม่ต่ำกว่า 15 บริษัท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ที่ 18,000-20,000 ล้านบาท หลังจากที่ช่วงที่ผ่านมามีทั้งหมดแล้ว 8 บริษัท โดยปัจจุบันได้มีบริษัทยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อเสนอขายหลักทรัพย์(ไฟลิ่ง) ให้แก่สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว 12 บริษัท ที่จะทยอยเข้าจดทะเบียนได้ในช่วงปลายปีนี้จนถึงปี 66
ขณะที่ปี 66 คาดว่าจะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด mai จำนวนมากกว่าปกติ เนื่องจากจะมีการปรับเกณฑ์การเข้าจะทะเบียนในตลาด mai ที่มีผลบังคับใช้ในปี 67 ว่าจะต้องมีงบการเงินชุดใหญ่ย้อนหลัง 3 ปี และ มีกำไรสุทธิปีสุดท้ายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท จึงต้องใช้ระยะเวลาการเข้าเตรียมตัวในการเข้าจดทะเบียนมากกว่าเดิม
"สถานการณ์ในปี 66 คงไม่ปกติเพราะคงมีคนที่รีบเข้ามาจดทะเบียนมากขึ้น เนื่องจากในปี 67 จะมีการบังคับใช้เกณฑ์ใหม่ซึ่งต้องใช้ระยะเวลามากขึ้น จึงทำให้คนที่อยากเข้าคงเร่งเข้าในปี 67 จำนวนมาก"นายประพันธ์ กล่าว
ทั้งนี้สมาคมบริษัทจดทะเบียน เอ็ม เอ ไอ (maiA) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ mai จัดงาน mai FORUM 2022 : มหกรรมรวมพลังคน mai ครั้งที่ 7 ในวันศุกร์ที่ 28 ต.ค. 65 เวลา 10.00 - 18.00 น. พบกับผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน mai ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับโอกาสและการเติบโตของธุรกิจของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ที่มาร่วมออกบูธกว่า 100 บริษัท พร้อมรับฟังปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "ตลาดทุนกับการพัฒนา SMEs ไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน" จากปลัดกระทรวงการคลัง เปิดมุมมองการลงทุนด้วยเสวนา "ทิศทางการลงทุนปี 2023" จากนักวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน ของบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ
นายไตรสรณ์ วรญาณโกศล นายกสมาคมบริษัท maiA กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ว่า เป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ได้แนะนำธุรกิจ สินค้าและบริการให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้ร่วมงาน ได้แก่กลุ่มนักลงทุน ผู้ประกอบการหรือประชาชนผู้สนใจทั่วไป และประการสำคัญซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจสมาคมคือการสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายธุรกิจและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้สมาชิก และพัฒนาบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ให้เป็นต้นแบบ ธุรกิจ SME ในประเทศไทย
ปัจจุบันสมาคมมีสมาชิก 188 บริษัท Market Cap ณ วันที่ 25 ส.ค. 65 คือ 560,473 ล้านบาท ซึ่งสมาคมฯ มีกิจกรรมมากมายในการสร้างเครือข่าย และพัฒนาความรู้ในด้านต่างๆ อาทิ IR in Action , คอรส์พัฒนา CFO อีกทั้งสมาคมฯ ยังมีส่วนร่วมในโครงการ SET Social Impact Gym มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้บริหารเข้าร่วมเป็นโค้ชจิตอาสาเฉลี่ยปีละ 30 ท่าน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ Social Enterprise งานในครั้งนี้ทางสมาคมฯ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทางตลาดหลักทรัพย์ mai และได้รับการสนับสนุนจาก ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของ งาน mai FORUM ตลอดระยะเวลา 7 ปี และกองทุนส่งเสริมเพื่อการพัฒนาตลาดทุน (CMDF)