TPCH คาดกำไรสุทธิปีนี้โตรับรู้เงินเคลมประกันเข้า Q4/65 เล็งจับมือพันธมิตรขยายลงทุนตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 28, 2022 12:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตกว่าปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ราว 135 ล้านบาท แม้ครึ่งปีแรกจะทำกำไรสุทธิได้เพียง 35 ล้านบาท แต่ในครึ่งปีหลังนี้จะมีการรับรู้เงินเคลมประกันจากการปิดซ่อมบำรุงนอกแผนของโรงไฟฟ้าชีวมวลช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB) ซึ่งมีการปิดซ่อมบำรุงฯ ไปทั้งสิ้น 4 เดือน คาดว่าจะได้รับเงินเคลมประกันดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท เข้ามาในไตรมาส 4/65 ซึ่งอิงจากเงินเคลมประกันโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงก์ เอ็นเนอร์ยี (MWE) รอบก่อนที่มีการปิดซ่อมบำรุงนอกแผน 3 เดือน

ขณะเดียวกันโรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน (TSG) สามารถกลับมาเดินเครื่องได้ตามปกติ หลังชัดดาวน์ และโรงไฟฟ้าชีวมวลปัตตานี กรีน เพาเวอร์ (PTG) สามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ดี และยังมีปัจจัยบวกจากค่า Ft เข้ามาสนับสนุน ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าภาพรวมกำไรสุทธิน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

"หากดูในงบของปี 62 เรามีกำไรสุทธิอยู่ราว 320 ล้านบาท และหลังจากที่เราเริ่มมีการลงทุน และ COD โรงไฟฟ้าใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการเข้าไปพัฒนาโรงไฟฟ้าขยะ สยาม พาวเวอร์ ทำให้กำไรสุทธิลดลงจาก 320 ล้านบาท เป็น 250 ล้านบาทในปี 63 และเหลือ 135 ในปี 64 แต่ในปีนี้ หากทุกอย่างเป็นไปตามปกติ โดยโรงไฟฟ้าชีวมวลช้างแรกฯ เราได้มีการเคลมประกันแล้ว ก็จะได้เงินเคลมประกันกลับเข้ามา, โรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน หลังจากเราแก้ปัญหาไปแล้ว และชัดดาวน์ไป ผลการดำเนินงานน่าจะกลับมาได้เหมือนเดิม และโรงไฟฟ้าชีวมวลปัตตานี กรีน เพาเวอร์ (PTG) ยังเดินเครื่องได้ดี และมีปัจจัยบวกจากค่า Ft ส่งผลให้ภาพโดยรวมปีที่แล้วน่าจะเป็นจุดต่ำสุดของ TPCH" นายเชิดศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้แผนการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน บริษัทฯ มีแผนที่จะลงทุนร่วมกับพันธมิตร เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนขนาดใหญ่ในต่างประเทศหลายโครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างการเข้าศึกษาโครงการ และคาดว่าจะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้

สำหรับการลงทุนภายในประเทศ ขณะนี้ อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงขยะ 5-7 โครงการ ภายใต้บริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด (SP) ซึ่ง TPCH ถือหุ้นในสัดส่วน 50% เพื่อเข้าร่วมโครงการรับซื้อไฟฟ้าของภาครัฐ คาดว่าจะเห็นความชัดเจน 1-2 โครงการ ภายในปีนี้

"TPCH เห็นโอกาสในการขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ จึงได้มีการศึกษาและเตรียมความพร้อมร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความชำนาญในพื้นที่ เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน ให้กับประเทศใน CLMV ที่มีความต้องการใช้พลังงานทดแทนในรูปแบบต่างๆ ซึ่ง บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในการทำโรงไฟฟ้าประเภทชีวมวล และขยะ อยู่แล้ว รวมถึงยังได้ศึกษาและพัฒนาเตรียมเข้าซื้อกิจการพลังงานทดแทนอีกหลายแห่งในประเทศอีกด้วย เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น และสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้กับบริษัทฯ" นายเชิดศักดิ์ กล่าว

ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างโรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล แม่ลาน กำลังการผลิตรับซื้อไม่เกิน 2.85 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าประชารัฐชีวมวล บันนังสตา กำลังการผลิตรับซื้อไม่เกิน 2.85 เมกะวัตต์ ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้าไปมากแล้ว คาดว่าจะสามารถ COD ได้ภายในไตรมาส 1/66

ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าที่ได้จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) รวม 11 แห่ง ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP, PTG,TPCH 5, TPCH 1 ,TPCH 2 และโรงไฟฟ้าขยะ SP มีกำลังการผลิตรวม 116.3 เมกะวัตต์ สามารถเดินเครื่องได้ตามปกติ รวมทั้งโครงการที่อยู่ระหว่างการปรับจูนเครื่องจักรก็มีความสามารถผลิตไฟฟ้าได้ดีขึ้น อีกทั้ง บริษัทได้ทยอยนำโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการ COD แล้วไปจดทะเบียนคาร์บอนเครดิตเพื่อทำการขาย เป็นช่องทางสร้างรายได้เพิ่มให้กับบริษัทในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ