นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดรีบาวด์ หลังปรับตัวลงมา 2 วัน เป็นไปตาม Sentiment ของตลาดหุ้นในต่างประเทศ จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวลงมา หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยไม่จำกัดจำนวน เพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาด หรือลดความผันผวนของค่าเงินปอนด์
อีกทั้งดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมาอยู่ในโซนจิตวิทยาประมาณ 1,600 จุด พอดี ทำให้มองเป็นจังหวะในการปรับตัวขึ้นได้ ให้กรอบแนวรับไว้ที่ 1,600 จุด และแนวต้าน 1,610-1,615 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (28 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,683.74 จุด พุ่งขึ้น 548.75 จุด หรือ +1.88%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,719.04 จุด เพิ่มขึ้น 71.75 จุด หรือ +1.97% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,051.64 จุด เพิ่มขึ้น 222.13 จุด หรือ +2.05%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,280.50 จุด เพิ่มขึ้น 106.52 จุด หรือ +0.41%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 17,570.17 จุด เพิ่มขึ้น 319.29 จุด หรือ +1.85% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,067.47 จุด เพิ่มขึ้น 22.4 จุด หรือ +0.73%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 ก.ย.65.) ที่ระดับ 1,599.23 จุด ลดลง 11.35 จุด, -0.70%
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 96.82 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ก.ย.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.(28 ก.ย.) พุ่งขึ้น 3.65 ดอลลาร์ หรือ 4.7% ปิดที่ 82.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ก.ย.) อยู่ที่ 2.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 37.96 แข็งค่าจากวานนี้ตามภูมิภาค จับตา Flow-ตัวเลข GDP สหรัฐฯ
- รัฐบาลเดินหน้าแผน อสังหาฟื้นเศรษฐกิจ "สุพัฒนพงษ์" เร่งดึงต่างชาติพำนักไทยระยะยาว เล็งให้ต่างชาติซื้อบ้านอยู่อาศัยได้ "ชโยทิต" เผยใช้เกณฑ์เดียวกับคอนโดสัดส่วนต่างชาติ 49% เตรียมเปิดฟังความเห็น "กิตติพงศ์" ชง 4 ทางออกต่างชาติซื้อที่ดิน-บ้าน แก้นอมินี "กอบศักดิ์" แนะลงทุนอสังหาฯ รับเศรษฐกิจฟื้นตัว "ศุภวุฒิ" แนะรับมือเศรษฐกิจโลกถดถอย
- กนง.เผยค่าเงินบาท ไม่ใช่เป้าหมายสุงสุด ในการดำเนินนโยบายการเงิน ชี้อ่อนค่ายังไม่กระทบภาพเศรษฐกิจเงินเฟ้อ ย้ำไม่นิ่งนอนใจติดตามเงินบาทใกล้ชิด "กรุงเทพ" ประเดิมแบงก์แรก ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้-เงินฝาก "กรุงศรี" ปรับมุมมองเงินบาทสิ้นปีนี้ อ่อนค่า เฉียด 40 บาทต่อดอลลาร์
- นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้คงประมาณการเศรษฐกิจไทยหรือจีดีพีปี 65 ไว้ที่ 3.3% แต่ได้ปรับลดจีดีพีปี 66 เหลือ 3.8% จาก 4.2% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกได้ชะลอตัวที่จะส่งผลต่อการส่งออก แต่ไทยยังได้แรงส่งจากการบริโภคเอกชนและการท่องเที่ยว คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทย 9.5 ล้านคนในปี 65 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 21 ล้านคนในปี 66 โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับเข้ามาสู่ก่อนเกิดโควิด-19 ได้ในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า
- นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้รายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 99.28 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 14.52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีอัตราการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรม (CapU) อยู่ที่ 63.78% ถือเป็นค่าดัชนีและอัตราการใช้กำลังผลิตสูงสุดในรอบ 5 เดือนนับตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
- วัดใจ กบน.ลดน้ำมันดีเซล หลังราคาตลาดโลกลดต่อเนื่อง กลุ่มเบนซิน-โซฮอล์ลงไป 4 บาทต่อลิตร พร้อมรับมือมาตรการลดภาษีดีเซล 5 บ.ต่อลิตรหมดอายุ พ.ย.นี้ ดูดเงินผู้ใช้ดีเซลเข้ากองทุนฯ พยุงราคาไม่ให้พุ่งเกิน
¶
*หุ้นเด่นวันนี้¶
- BBL (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 180 บาท ได้ Sentiment บวกหลัง BBL ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก ตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยของแบงก์ชาติซึ่งเร็วกว่าที่เราเคยประเมินกันไว้ คาดจะหนุนให้ NIM และ กำไรของ BBL เพิ่มขึ้นจากโครงสร้างสินเชื่อที่เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูงและมีโครงสร้างเงินฝากดอกเบี้ยต่ำ (CASA) สูงเช่นกัน
- AAV (ฟินันเซีย ไซรัส) "เก็งกำไร" ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 3.40 บาท โมเมนตัมกำไรครึ่งปีหลังปี 65 คาดฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญตามการทยอยเปิดประเทศต่อเนื่องในแถบเอเชีย คาดสามารถเพิ่มเที่ยวบินต่างประเทศได้เป็น 50% เทียบกับก่อน COVID-19 ได้ภายในสิ้นปีนี้ FSSIA คาดผลการดำเนินงานปี 2565 จะขาดทุนเป็นปีสุดท้ายก่อนพลิกกำไรในปี 2566 ที่ 1.2 พันลบ. ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะฟื้นตัวอย่างมีนัยยะและเป็นอุตสาหกรรมทื่ฟื้นตัวชัดเจนที่สุด คาดช่วยประคองราคาหุ้นปรับตัวได้แข็งแรงกว่าตลาดได้ต่อเนื่อง
- BAFS (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 33.75 บาท BAFS เป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากแผนการเปิดประเทศและความหวังจากกิจกรรมทางด้านการบินที่ทยอยฟื้นตัว โดยในปี 65 ผู้บริหารคาดว่าปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานมีโอกาสทะลุเป้าหมายเดิมที่ 3 พันล้านลิตร หลังจากช่วง 7 เดือนแรกบริษัทมีปริมาณเติมน้ำมันแล้ว 1.21 พันล้านลิตร แนวโน้มไตรมาส 3/65 คาดขาดทุนลดลง และมีโอกาสพลิกเป็นกำไรเล็กน้อยในไตรมาส 4/65 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย ส่วนธุรกิจธุรกิจการให้บริการขนส่งน้ำมันทางท่อ (NFPT) คาดว่าปีนี้จะมีปริมาณขนส่งน้ำมัน 506 ล้านลิตร เติบโต 53%YoY ตามความต้องการใช้น้ำมันเริ่มกลับมาอย่างต่อเนื่อง