นายพิศณุ โชควัฒนา กรรมการบริหาร และกรรมการผู้อำนวยการ บมจ.วันเวนดิ้ง เทคโนโลยี (SVT) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/65 จะเติบโตดีกว่าไตรมาส 2/65 เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมายังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เนื่องด้วยสถานการณ์ดังกล่าวยังไม่กลับมา 100% แต่ในปัจจุบันหรือช่วงไตรมาส 3 นี้ โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ทำให้พนักงานบริษัทเริ่มกลับมาทำงานที่บริษัทกันปกติ อีกทั้งนักเรียน นักศึกษา ก็กลับมาเรียนกันตามปกติด้วย จึงมองเป็นบวกต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/65 มีรายได้เพิ่มขึ้นในทุกเซ็กเมนต์
ทั้งบริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโตราว 13-15% จากปีก่อนมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,963.32 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมีรายได้แล้วที่ 1,085.90 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตของธุรกิจหลักๆ จะมาจากการเพิ่มจำนวนตู้จำหน่ายสินค้า วางเป้าหมายไว้ที่ 16,000 ตู้ในสิ้นปีนี้ และในปี 66 จะเพิ่มเป็น 20,000 ตู้ จากปัจจุบันมีอยู่ 15,000 ตู้ และการขยายพื้นที่ให้บริการตู้จำหน่ายสินค้า ซึ่งปัจจุบันมีสาขาให้บริการจำนวนทั้งสิ้น 12 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 29 จังหวัด โดยภายในปีนี้ถึงต้นปี 66 บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มสาขาให้บริการเป็น 17 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 32 จังหวัด โดยสาขาที่ต้องการเพิ่ม ประกอบด้วย จังหวัดอุบลราชธานี อุดาธานี ปทุมธานี ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี เป็นต้น
นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เปิดตัว Application "SUN V" ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ตสร้างสัมพันธภาพระหว่างลูกค้า ที่ส่วนใหญ่เป็นพนักงานโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีความคุ้นเคยกับการสะสมแต้มและนำแต้มมาใช้ในการแลกซื้อสินค้า ซึ่งแพลตฟอร์มนี้จะช่วยเสนอสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าของบริษัทได้ และยังสามารถระบุพื้นที่ของจุดตั้งตู้จำหน่ายสินค้าของ SVT ที่ร่วมในรายการนี้ ด้านการชำระเงิน ยังสามารถชำระเงินได้ถึง 8 ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเงินสดและ E-payment ได้อีก 7 ช่องทาง
ล่าสุดบริษัทได้ร่วมกับเครือ PT เพิ่มช่องทางการชำระเงินผ่าน Max Me ของทาง PT และเร็วๆ นี้ บริษัทจะร่วมกับทาง Lazada แพลตฟอร์มช้อปปิ้ง เพิ่มช่องทางการชำระเงินผ่าน LazPay Wallet