SSTRT ขยายกอง 190 ลบ.ลงทุนคลังเอกสารให้เช่า 4 อาคาร SST นำขยายงานรับดีมานด์โต

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 3, 2022 16:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอกชัย ลิ้มศิริวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอสที รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทรัพย์ศรีไทย (SSTRT) เปิดเผยว่า กองทรัสต์ SSTRT ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุมัติการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมไม่เกิน 36.53 ล้านหน่วยที่จะลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 มูลค่าไม่เกิน 190 ล้านบาท (ยังไม่รวมภาษี ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง) โดยมี บลจ.วรรณ เป็นทรัสตี และบริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด เป็นที่ปรึกษาการเงิน

สำหรับทรัพย์สินที่กองทรัสต์ SSTRT จะเข้าลงทุนในครั้งนี้ เป็นคลังเอกสารในโครงการคลังเอกสารของ บมจ.ทรัพย์ศรีไทย (SST) ประกอบด้วย ที่ดิน 4 ไร่ 1 งาน 68.9 ตารางวา และ อาคารคลังเอกสาร จำนวน 4 อาคาร ได้แก่ อาคารคลังเอกสารหมายเลข 36 พื้นที่ 1,750 ตารางเมตร อาคารคลังเอกสารหมายเลข 37 พื้นที่ 1,750 ตารางเมตร อาคารคลังเอกสารหมายเลข 38 พื้นที่ 1,750 ตารางเมตร และอาคารคลังเอกสารหมายเลข 39 พื้นที่ 1,750 ตารางเมตร

คลังเก็บเอกสาร ทั้ง 4 อาคาร เป็นอาคารเก็บรักษาเอกสารสำคัญ (Document Storage Services Center) ให้แก่ บริษัท ห้างร้าน และหน่วยราชการต่างๆ เช่น เอกสารทางด้านบัญชี เอกสารทางการเงิน เอกสารด้านนิติกรรม ตลอดจนเอกสารข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ที่กฎหมายกำหนดให้เก็บเอกสารอย่างน้อยประมาณ 5-10 ปี

ศักยภาพและจุดเด่น ของคลังเก็บเอกสารของ SST คือ การนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ ทั้ง ระบบการจัดเก็บเอกสารอัตโนมัติ AS/RS ที่ทันสมัย มีการจัดเก็บเอกสารในอาคารศูนย์เก็บเอกสารขนาดใหญ่ มีระบบระบายอากาศภายในคลังเอกสารที่ดี มีชั้นสำหรับวางและจัดเก็บเอกสารเป็นชั้นเหล็กสำเร็จรูปแข็งแรงและทนทาน สะดวกต่อการจัดเก็บและดูแล มีระบบการควบคุมการจัดเก็บด้วยระบบคอมพิวเตอร์ มีรหัสบาร์โค้ดที่สามารถค้นหาเอกสารได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาและให้บริการ มีบริการนำส่งเอกสารที่ต้องการใช้ตรวจสอบได้รวดเร็ว ตลอดจนมีระบบควบคุมดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงด้วยกล้องวงจรปิด มีระบบการตรวจสอบเพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล และป้องกันอัคคีภัย

หลังจากการลงทุนเพิ่มในครั้งนี้ กองทรัสต์ SSTRT จะมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน คลังเอกสาร งานระบบสาธารณูปโภคและอุปกรณ์ เพิ่มขึ้นรวมทั้งสิ้น เป็น 18 อาคาร จากทรัพย์สิน ณ ปัจจุบัน จำนวน 14 อาคาร ซึ่งจะส่งผลให้มีมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ฯ แตะที่ระดับ 1,700 ล้านบาท และยังถือว่าเป็นกองทรัสต์ฯ เพียงรายเดียวในประเทศไทยที่เป็นกองทรัสต์ ประเภทคลังเอกสาร

ทรัพย์สินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ ทาง SST จะเป็นผู้เช่าเหมาทรัพย์สินดังกล่าวทั้งหมด มีกำหนดระยะเวลาการเช่า 10 ปีนับตั้งแต่ได้ดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ให้แก่กองทรัสต์ SSTRT และมีสิทธิต่อสัญญาเช่าอีกคราวละ 3 ปี

ทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้เป็นประเภท Freehold 100% พร้อมทั้งยังได้ประมาณการการจ่ายประโยชน์ตอบแทนต่อหน่วยแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ภายหลังการลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมครั้งที่ 1 เท่ากับ 0.4183 บาท/หน่วย สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.65 ถึง วันที่ 30 พ.ย. 66 คิดเป็นอัตราจ่ายประโยชน์ตอบแทน (Dividend Yield) 7% และมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นจาก 1.54 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 2/64 เป็น จำนวน 1.73 ล้านบาท

นายสมศักดิ์ แต่งประกอบ ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน SST กล่าวว่า แนวโน้มของคลังเอกสารยังคงมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง และสามารถสร้างรายได้ประจำเข้ามาให้กับบริษัทเฉลี่ย 400-450 ล้านบาท/ปี และยังคงมีแนวโน้มความต้องการคลังเก็บเอกสารจากผู้ประกอบการต่างๆอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าปัจจุบันจะมีการให้บริการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ แต่ในประเทศไทยยังคงมีการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับเอกสารที่คสบคู่กันทั้งกระดาษและอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ยังมีการใช้คลังจัดเก็บเอกสารอยู่ค่อนข้างมาก และยังมีความปลอดภัยมากกว่าการจัดเก็บในระบบอิเล็กทรอนิกส์

สำหรับเงินที่ได้จากการขายคลังจัดเก็บเอกสาร 4 คลัง เข้ากองทรัสต์ SSTRT ในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินไปใช้รองรับการพัฒนาพื้นที่ดิน 17 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาการพัฒนาเป็นคลังจัดเก็บเอกสารส่วนหนึ่ง หรือนำมาพัฒนาเป็นครัวกลางให้เช่าสำหรับดังกิ้น โดนัท รวมถึงพื้นที่จัดเก็บห้องเย็นให้เช่าของเกรย์ฮาว ซึ่งจะนำมาพัฒนาในอนาคต

ขณะที่นายเอกชัย กล่าวอีกว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมการให้บริการคลังเอกสารยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดเก็บข้อมูล เพื่อใช้ประกอบการดำเนินธุรกิจในทุกๆภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสืบค้นและอ้างอิงทางเอกสารหลักฐานเชิงข้อมูลทางธุรกิจ รวมถึงการตรวจสอบเอกสารของหน่วยงานภาครัฐ ทั้งนี้แม้ว่าในปัจจุบันบริษัทหลายแห่งเลือกเก็บเอกสารในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ แต่ในประเทศไทยยังคงมีข้อบังคับทางกฎหมาย กำหนดให้บริษัทต่างๆ ต้องเก็บเอกสารไว้ เพื่อตรวจสอบหรืออ้างอิงตามที่กฎหมายกำหนดไว้

โดยเฉพาะสถาบันทางการเงิน ซึ่งกำหนดให้มีการจัดเก็บเอกสารบางประเภทในรูปแบบต้นฉบับกระดาษ อาทิ เอกสารทางบัญชี เอกสารทางการเงิน เอกสารนิติกรรมต่างๆ และเอกสารอื่นๆ ที่มีความสำคัญทางกฎหมายและภาษีอากรเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบ กำกับดูแล และสืบค้นตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ ภายใต้ระยะเวลาการเก็บรักษาเอกสารอย่างน้อย 5-10 ปี หรือเป็นไปตามนโยบายของแต่ละบริษัทก่อนที่จะถึงช่วงที่กำหนดทำลายเอกสารฃ

จากปริมาณธุรกรรมและเอกสารที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการบังคับของกฎเกณฑ์ภายในของแต่ละบริษัท ส่งผลให้ SST ในฐานะเจ้าของทรัพย์สินได้อนุมัติจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัทให้แก่กองทรัสต์ SSTRT สำหรับลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 เพื่อให้สอดรับกับกองทรัสต์ฯ ที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินหลักประเภทอสังหาริมทรัพย์ หรือสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ประเภทอาคารคลังเอกสาร คลังสินค้า และทรัพย์สินอื่นใดที่เกี่ยวข้อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ