นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ฟื้นตัวตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ คือดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 50.9 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพ.ค.63 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.3 จากระดับ 52.8 ในเดือนส.ค. ทำให้ลดแรงกดดันเงินเฟ้อ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ผ่อนคลายลง รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็ชะลอการแข็งค่า
ให้แนวรับ 1,540 จุด และแนวต้าน 1,580-1,587 จุด
ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส คาด SET Index ฟื้นตัวทดสอบระดับ 1,580 +- จุด หลังปรับฐานแรงถึง -6.7% จากจุดสูงสุด เดือน ก.ย. รวมถึง RSI ที่เข้าเขต Oversold บรรยากาศการลงทุนผ่อนคลายมากขึ้นหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ของสหรัฐฯชะลอตัวลงหลังตลาดเริ่มมีการปรับคาดการณ์ดอกเบี้ยช่วงต้นปี 2566 ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดลงจากช่วงก่อนหน้าเล็กน้อย ส่งผลให้เม็ดเงินไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น
ส่วนปัจจัยภายในประเทศภาพรวมยังทยอยฟื้นตัว ประเด็นน้ำท่วมยังไม่ถึงขั้นน่ากังวล แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์อีกระยะว่าจะรุนแรงหรือไม่ โดยยังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่ม Domestic และ Reopening play ได้แก่ ท่องเที่ยว อาหาร ค้าปลีก ธนาคาร เป็นต้น ซึ่งได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจขาขึ้น ส่วนกลยุทธ์เน้นถือลงทุนระยะกาลาง-ยาวหลังให้ทอยอยสะสมหุ้นเพิ่มช่วงตลาดพักฐาน
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (3 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,490.89 จุด พุ่งขึ้น 765.38 จุด หรือ +2.66%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,678.43 จุด เพิ่มขึ้น 92.81 จุด หรือ +2.59% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,815.43 จุด เพิ่มขึ้น 239.82 จุด หรือ +2.27%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,653.49 จุด พุ่งขึ้น 437.7 จุด หรือ +1.67% ขณะที่ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันที่ 3 - 7 ต.ค. เนื่องในวันชาติ ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้ (4 ต.ค.) เนื่องในวันหยุดประจำชาติ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 ต.ค.65.) ที่ระดับ 1,558.05 จุด ลดลง 31.46 จุด, -1.98%
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,471.60 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 ต.ค.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.(3 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 4.14 ดอลลาร์ หรือ 5.2% ปิดที่ 83.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 ต.ค.) อยู่ที่ 1.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 37.89 แข็งค่าตามภูมิภาค หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯกดดอลลาร์อ่อนค่า
- ธปท.ห่วงหนี้ครัวเรือนพุ่ง หลังหนี้ครัวเรือนสิ้นไตรมาส 2/65 อยู่ที่ระดับ 88.2% ของจีดีพี เตรียมส่งหนังสือกำชับสถาบันการเงินลดแคมเปญจูงใจก่อหนี้เพิ่ม ด้านตลาดหุ้นไทยร่วง 31.46 จุด ลดลง 1.98% ปิดที่ 1,558.05 จุด จากความกังวลเฟดประชุมนัดพิเศษ และราคาหุ้นเครดิตสวิสดิ่ง นักลงทุนกังวลปัญหาเศรษฐกิจโลก จนกระทบต่อภาคการเงินและตลาดหุ้น
- "ศักดิ์สยาม" เตรียมดันบิ๊กโปรเจกต์ ชง ครม. โค้งสุดท้ายรัฐบาล ปรับแบบมอเตอร์เวย์ "บางปะอิน" 16 ตอน PPP ขยายโทลล์เวย์ 2.87 หมื่นล้าน รถไฟทางคู่ขอนแก่น-หนองคาย และรถไฟสีแดงต่อขยาย 3 เส้นทาง มั่นใจงานไม่สะดุด
- กฟผ.เผยแนวโน้มค่าไฟแพงยันปีหน้า พร้อมเดินหน้ารับลูกรัฐ กระตุ้นส่งเสริมใช้พลังงานทดแทน ลดพึ่งก๊าซแอลเอ็นจี ด้าน ธพ.เผยการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 8 เดือนของปี 65 มีอัตราเพิ่มขึ้นเกือบทุกชนิด
- สมาคมนักวิเคราะห์ฟันธงเศรษฐกิจปี 65-66 ฟื้นตัวหนุน SET Index สิ้นปียังขึ้นที่ 1,685 เป้าดัชนีสูงสุดปีนี้อยู่ที่ 1,709 จุด ขณะที่ปัจจัยลบต่อหุ้นไทยจากนี้ถึงสิ้นปีคือเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและหลายๆ ประเทศเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย ฯลฯ มั่นใจจีดีพีปีหน้าโต 3.86%
- สกพอ.เตรียมเสนอแก้สัญญา ไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบินเข้า กบอ. ในเดือน ต.ค.นี้ ลุ้น "สุพัฒนพงษ์" ไฟเขียว ก่อนเสนอ ครม.อนุมัติลงนาม ก่อนเร่งส่งมอบพื้นที่เอกชน ภายใน ม.ค.2566
*หุ้นเด่นวันนี้
- PTTEP (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 185 บาท ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบพุ่งแรง ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/65 คาดกำไรยังประคองตัวได้จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณขณะที่ Hedging loss คาดว่าจะลดลงและอาจพลิกเป็นบวกหลังราคาน้ำมันดิบ Brent ต่ำกว่าระดับ 102 เหรียญ/บาร์เรล
- SCB (กสิกรไทย) ราคาพื้น,น 152 บาท คาดกำไรไตรมาส 3/65 จะเติบโตสูงสุดในเชิง QoQ , การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทุก 25 bps จะเป็น upsides ต่อกำไรปี 2566 ของธนาคาร SCB +2% , โดยสถิติการประชุม กนง.ในรอบที่ขึ้นดอกเบี้ยฯอาทิ รอบล่าสุด 10 ส.ค. หุ้นกลุ่มธนาคารจะ Out perform หลังการประชุม 1 สัปดาห์ โดยปรับขึ้นเฉลี่ย 2% และเมื่อวาน SCB ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล หุ้นละ 1.50 บาท ขึ้น XD วันที่ 12 ต.ค.
- SNNP (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 20.30 บาท คาดว่าภาพการดำเนินงานจะยังคงสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องในช่วง 2H65 ได้แรงหนุนในเชิงรายได้จากการ Reopening ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศโดยเฉพาะเวียดนามและกัมพูชา ขณะที่ทางบ.เองยังคงมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่องตามกระแส มีทั้งที่เป็น ขนมรูปน่องไก่ผสมใบกัญชา กลิ่นบาร์บีคิว และ น้ำผลไม้ ผสมน้ำใบกัญชา ขณะที่ระยะถัดไปยังมีปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตจากโรงงานในเวียดนามซึ่งคาดว่าจะทะยอยเปิดเป็น 3 เฟส(เฟสแรกในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และ เฟสสุดท้ายช่วงปลายปีหน้า) ทั้งนี้ตลาดคาดว่าในปี65 และ66 กำไรสุทธิของ SNNP จะสามารถขยายตัวได้โดดเด่นมาอยู่ที่ระดับ 494 ลบ. (+13%YoY) และ 616 ลบ.(+25%YoY) ตามลำดับ