บล.กรุงศรี คาดว่ากำไรรวมของกลุ่มธนาคารในไตรมาส 3/65 จะอยู่ที่ 4.3 หมื่นล้านบาท (+4% qoq และ +29% yoy) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น qoq จะได้แรงหนุนมาจากพอร์ตสินเชื่อที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และการทยอยปรับตัวลงของ ECL ที่ค่อยๆ กลับไปอยู่ระดับปกติ ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง yoy จะเป็นเพราะผลจากฐานกำไรที่ต่ำในปีที่แล้วเพราะมีการตั้งสำรองสูงในช่วงที่มีการใช้มาตรการ lockdown เมืองหลังจากที่ COVID-19 กลับมาระบาดในช่วงกลางปี 64
ทั้งนี้ เราคาดว่าผลประกอบการของ BBL จะโตแรงสุด qoq ที่ +25% จากการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่ออย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3/65 และกำไรของ KTB จะโตแรงที่สุด yoy ที่ +49% ในไตรมาส 3/65 แต่อาจจะลดลง 10% qoq เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อหดตัว และ non-NII ลดลง
โอกาสในช่วงที่ตลาดผันผวน เรายังคงมองว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะแกว่งตัวผันผวนในช่วงไตรมาส 4/65 จากความกังวลว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก และ NIM ที่อาจได้รับแรงกดดันจากการทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย M-rate และการกลับไปจ่ายค่าธรรมเนียม FIDF ในอัตราปกติ
อย่างไรก็ตาม มองว่าเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนระยะยาว ที่จะทยอยเพิ่มการลงทุน โดยแนะนำค่อยๆเพิ่มนำหนักการลงทุน เพราะมองไปปีหน้ากลุ่มธนาคารจะได้อานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะทำให้มีอุปสงค์สินเชื่อแข็งแกร่ง, NIM ฟื้นตัว และ คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น
บล.กรุงศรี คงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มธนาคารที่ OVERWEIGHT โดยเลือก SCB (ราคาเป้าหมาย 155 บาท) และ KTB (ราคาเป้าหมาย 21 บาท) เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มนี้
สำหรับพอร์ตสินเชื่อของธนาคารในเดือน ส.ค.65 รายงานออกมาผสมผสานโดยเห็นภาพตัวเลขที่มีทั้งเพิ่มและลด โดยบางธนาคารลุยปล่อยกู้เพิ่ม แต่บางธนาคารมีแตะเบรกก่อนการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยประเมินกำไรรวมของกลุ่มธนาคารในไตรมาส 3/65 จะดีขึ้นทั้ง qoq และ yoy จากพอร์ตสินเชื่อขยายตัวขึ้น และการตั้งสำรองที่ปรับลดลง
ทั้งนี้ ในเดือน ส.ค.65 ตัวเลขสินเชื่อของธนาคารใหญ่ปรับเพิ่มขึ้น 0.3% mom และมีการขยายตัวได้แล้ว 2.9% ytd โดยบางธนาคารลุยขยายพอร์ตสินเชื่อเพิ่ม ในขณะที่บางธนาคารมีการแตะเบรกก่อนที่ ธปท.จะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งสินเชื่อของ BBL ขยายตัวมากที่สุด 4.1% mom ในขณะที่ยอดปล่อยกู้สะสมในปีนี้ของ KKP โตแรงที่สุดที่ 14.8% ytd จากการขยายสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อ HP และสินเชื่อจดจำนอง
ในทางกลับกันสินเชื่อของ KTB หดตัวมากที่สุดทั้งในเดือน ส.ค.65 (-1.3% mom) และยอดสะสมมาตั้งแต่ต้นปีนี้ (-1.2% ytd) หลักๆ มาจากการรับคืนชำระจากสินเชื่อภาครัฐที่เติบโตสูงในปีก่อน แต่คาดว่ากำไรจะดีขึ้นทั้ง qoq และ yoy ในไตรมาส 3/65