ADVANC ปรับลง 2.11% หรือลดลง 4.00 บาท มาที่ 186.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,970.89 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.54 น.จากราคาเปิด 190.00 บาท ราคาสูงสุด 190.50 บาท ราคาต่ำสุด 185.00 บาท ซึ่งต่ำสุดในรอบ 1 ปี 1 เดือน
ขณะที่ INTUCH ปรับลง 1.72% หรือลดลง 1.25 บาท มาที่ 71.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 155.20 ล้านบาท จากราคาเปิด 72.50 บาท ราคาสูงสุด 72.50 บาท ราคาต่ำสุด 71.25 บาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ราคาหุ้น บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) และ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) เช้านี้ปรับตัวลดลงจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยลบในระยะสั้น คือ คาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 3/65 อ่อนแอ โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 6.3 พันล้านบาท ลดลง 6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) และ ลดลง 5% จากไตรมาส 2/65 (QoQ) นอกจากนั้น ตลาดมองว่ามีความเป็นไปได้ที่กำไรในไตรมาส 3/65 อาจต่ำกว่า 6 พันล้านบาท
อีกปัจจัยมาจากความกังวลดีลกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) โดยพรุ่งนี้ (7 ต.ค.) จะมีการจัดประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ก่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วย (Pre E-EGM) เพื่อซักซ้อมการโหวตของผู้ถือหน่วยที่จะพิจารณาวาระที่ ADVANC จะเข้าซื้อหน่วยลงทุน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะไม่ผ่าน เหราะถ้าผู้ถือหน่วยโฟกัสเฉพาะอัตราผลตอบแทน (Yield) ที่ได้จะต่ำลงก็จะเป็น Negative
ทั้งนี้ JASIF จะมีการประชุม E-AGM ในวันที่ 18 ต.ค.65
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของโนมูระฯ เห็นว่าดีลขายหน่วยลงทุนให้กับ ADVANC ในระยะยาวจะทำให้ JASIF มีอัตราผลตอบแทนดีขึ้น เพราะการเปลี่ยนสปอนเซอร์เป็น ADVANC ที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่งและจะมีการ Synergy กับ ADVANC มีธุรกิจมือถือ
ดังนั้น แนะนำราคาอ่อนตัวเป็นโอกาส "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 252 บาท โดยแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/65 คาดว่าจะค่อยๆ ดีขึ้น และมองว่าหากดีลควบรวมระหว่าง บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ผ่านน่าจะส่งผลบวกต่อ ADVANC
ส่วน INTUCH อ่อนตัวตาม ADVANC เพราะผลประกอบการอิงกับ ADVANC ทำให้ราคาหุ้นปรับลดลงไปด้วย