ภาวะตลาดหุ้นไทยเช้าบวก 1.13 จุด ตามภูมิภาค ขาดปัจจัยใหม่ บ่ายรอตัวเลขเงินเฟ้อ

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 818.17 จุด เพิ่มขึ้น 1.13 จุด(+0.14%) มูลค่าการซื้อขาย 5,425.78 ล้านบาท 
          การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 820.84 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 817.28 จุด
         น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้น่าจะเป็นไปตามตลาดหุ้นดาวโจนส์ที่เมื่อวานนี้ปรับตัวขยับดีขึ้น แต่ยังมองว่ายังไม่ได้มีปัจจัยอะไรอื่นที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นไทย ช่วงนี้มองแค่ selective buy ตลาดน่าจะอยู่ในช่วง sideway มากกว่า 
          โดยในช่วงบ่าย ประมาณ  14.00 น.จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ เดือนมี.ค.51         
          "วันนี้ขยับตัวดีขึ้นน่าจะเป็นในเรื่องตลาดภูมิภาคที่เป็นเชิงบวก แต่เดิมคาดว่าตลาดไม่น่าจะปรับขึ้นได้เพราะราคาน้ำมันปรับลง แต่ตลาดยังรอตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ เพราะเดือนก.พ.อยู่ที่ 5.4% ซึ่งขยับขึ้นมาค่อนข้างสูง สำหรับเดือนมี.ค.มองว่ายังอยู่ในขั้นสูงเช่นกัน"น.ส.ศศิกร กล่าว 
          ทั้งนี้ มองทางเทคนิค ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 817 จุด ซึ่งเป็นจุดที่ค่อนข้างสำคัญ เพราะถ้าหลุด 817 จุด แนวโน้มเทคนิคจะปรับเป็นขาลง แต่วันนี้ขยับตัวขึ้นมาได้เล็กน้อยทำให้มองในเชิงเทคนิคยังดีอยู่ 
          อย่างไรก็ตาม ตลาดวอลุ่มน้อยมากและดัชนียังไม่ค่อยไปไหน จึงแนะรอซื้อเมื่ออ่อนตัวมากกว่า เน้นหุ้นที่เก็งกำไรผลประกอบการไตรมาสแรก กรอบการเคลื่อนไหวแนวต้าน 822-827 จุด แนวรับ 810 และ 806 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ 
          BANPU มูลค่าการซื้อขาย 450.25 ล้านบาท ปิดที่ 412.00 บาท ลดลง  4.00 บาท
          TOP   มูลค่าการซื้อขาย 406.79 ล้านบาท ปิดที่  70.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
          IEC   มูลค่าการซื้อขาย 305.62 ล้านบาท ปิดที่   2.26 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท 
          TTA   มูลค่าการซื้อขาย 249.71 ล้านบาท ปิดที่  41.25 บาท ลดลง  1.25 บาท
          SCB   มูลค่าการซื้อขาย 242.50 ล้านบาท ปิดที่  90.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง