นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวผันผวน Sideway Down คาดการณ์กรอบเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,550-1,590 จุด โดยคาดว่าปริมาณการซื้อขายจะเบาบางเนื่องจากติดวันหยุดยาวในช่วงปลายสัปดาห์ ประกอบกับนักลงทุนยังติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในวันที่ 13 ต.ค.นี้ หากออกมาสูงกว่าคาดการณ์ที่ 8.3% อาจทำให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.75%
ก่อนหน้านี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 263,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 250,000 ตำแหน่ง แต่ต่ำกว่าระดับ 315,000 ตำแหน่งในเดือน ส.ค. ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% จากระดับ 3.7% ในเดือน ส.ค.กดดันเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ขณะที่สัญญาณบ่งชี้สงครามรัสเซีย-ยูเครนยังยืดเยื้อต่อไปหลังเกิดเหตุไฟไหม้รถบรรทุกถังน้ำมันบนสะพานเคิร์ชในไครเมีย ซึ่งตามมาด้วยรัสเซียยิงขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตียูเครน และ อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต ซึ่งเป็นหน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจระบุว่าสกุลเงินของเอเชียมีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงอีก 1 ไตรมาสหลังเฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ปัจจัยที่ยังต้องจับตา อาทิ ปัจจัยในประเทศ ได้แก่ วันที่ 12 ต.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ, วันที่ 12-21 ต.ค. กลุ่มธนาคารส่งงบการเงินงวดไตรมาส 3/65
สถานการณ์ต่างประเทศ
วันที่ 12 ต.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.ย., คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) (เช้าวันที่ 13 ต.ค.) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.
วันที่ 13 ต.ค. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
วันที่ 14 ต.ค. จีน รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., สหภาพยุโรป (อียู) รายงานดุลการค้าเดือน ส.ค., สหรัฐ รายงานยอดค้าปลีกเดือน ก.ย.
วันที่ 16 ต.ค. การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน
และวันที่ 1-2 พ.ย. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐรอบหน้า
ลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะประกาศผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 3/65 ออกมาดี จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย โดยหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ BBL (+YoY +QoQ), KBANK (+YoY +QoQ), KTB (+YoY -QoQ) และ SCB (+YoY +QoQ)
และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประกอบกับการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นปลายปี และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์ ได้แก่ ERW, CENTEL, VRANDA, ASAP และ SPA
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า สัปดาห์นี้ยังคงต้องจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ หากออกมาสูงกว่าคาดการณ์อาจกดดันให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% เนื่องจากในระยะถัดไปแนวโน้มเงินเฟ้ออาจทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง สาเหตุมาจากโอเปกพลัสมีมติลดกำลังการผลิตลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน พ.ย.65 ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ล่าสุดอยู่เหนือระดับ 90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ตลาดกลับมากังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้ออีกครั้ง
ดังนั้น ฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำผันผวนในระหว่างสัปดาห์ โดยหากหากราคาทองคำอ่อนตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,680เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ แนะนำทยอยเข้าซื้อสะสม และมีจุดทำกำไรที่แนวต้าน 1,750 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์