SET ปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,567.07 จุด ลดลง 3.50 จุด (-0.22%) มูลค่าการซื้อขายราว 29,259.61 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ช่วงต้นร่วงลงไปแรงก่อนจะดีดตัวกลับขึ้นมาได้บ้าง แต่วอลุ่มยังเบาบาง ระหว่างรอติดตามเงินเฟ้อสหรัฐกลางสัปดาห์คาดเงินเฟ้อทั่วไปลดลงแต่เงินเฟ้อพื้นฐานสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนไม่กล้าดักซื้อหุ้นก่อนเหตุกังวลโอกาสดอกเบี้ยสหรัฐขึ้นไปสูงถึง 5% ในเดือน มี.ค.66 และตลาดหุ้นไทยใกล้วันหยุดยาวทำให้ซึมลง ให้กรอบดัชนีในสัปดาห์นี้ แนวรับ 1,550 จุด แนวต้าน 1,585 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ ปิดช่วงเช้านี้ 1,567.07 จุด ลดลง 3.50 จุด (-0.22%) มูลค่าการซื้อขายราว 29,281 ล้านบาท
การซื้อขายวันนี้ ดัชนีทำระดับสูงสุด 1,569.13 จุด และต่ำสุด 1,559.22 จุด
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ช่วงต้นปรับตัวลงไปแรงกว่า 10 จุด แต่ต่อมาลดช่วงลบในลักษณะเทคนิเคิลรีบาวน์ โดยภาพรวมตลาดหุ้นในช่วง 2 วันก่อนประกาศเงินเฟ้อสหรัฐ 13 ต.ค.ยังแกว่งไร้ทิศทางและปริมาณซื้อขายเบาบาง
โดยรอบนี้ตลาดฯ คาดการณ์ว่า Headline inflation ของสหรัฐในเดือน ก.ย.อยู่ที่ 8.1% ลดลงจาก 8.3% ในเดือนก่อนหน้า แต่ Core Inflation คาดที่ 6.5% สูงขึ้นจาก 6.3% ทำให้นักลงทุนไม่กล้าดักซื้อหุ้นก่อน โดยเลือกรอความชัดเจนในวันที่ 13 ต.ค.นี้ เพราะหากเงินเฟ้อสูงขึ้นก็อาจมีโอกาสที่ดอกเบี้ยสหรัฐจะขึ้นไปสูงกว่าคาดจาก 4.75% เป็น 5% ภายในเดือน มี.ค.66
อีกทั้ง ตลาดหุ้นไทยใกล้วันหยุดยาวในสัปดาห์นี้ ทำให้มีลักษณะซึมตัว คาดว่าช่วง 2 วันทำการที่เหลือในสัปดาห์นี้จะแกว่งตัวบวก-ลบราว 5 จุด โดยให้กรอบดัชนีในสัปดาห์นี้ แนวรับที่ 1,550 จุด แนวต้านที่ 1,585 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,235.12 ล้านบาท ปิดที่ 55.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,010.85 ล้านบาท ปิดที่ 169.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 956.72 ล้านบาท ปิดที่ 71.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 922.76 ล้านบาท ปิดที่ 664.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 753.85 ล้านบาท ปิดที่ 312.00 บาท ลดลง 1.00 บาท