(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ตามภูมิภาค ไร้ปัจจัยใหม่หนุน-รอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ

ให้แนวรับไว้ที่ 1,556-1,560 จุด และแนวต้าน 1,570 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน¶

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (11 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,239.19 จุด เพิ่มขึ้น 36.31 จุด หรือ +0.12%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,588.84 จุด ลดลง 23.55 จุด หรือ -0.65% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,426.19 จุด ลดลง 115.91 จุด หรือ -1.10%
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,353.22 จุด ลดลง 48.03 จุด หรือ -0.18%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 16,758.27 จุด ลดลง 74.09 จุด หรือ -0.44% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,976.72 จุด ลดลง 3.07 จุด หรือ -0.10%
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 ต.ค.65.) ที่ระดับ 1,562.68 จุด ลดลง 7.89 จุด, -0.50%
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 683.65 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ต.ค.65
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.(11 ต.ค.) ลดลง 1.78 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 89.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 ต.ค.) อยู่ที่ -0.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 38.16 ทรงตัวรอปัจจัยใหม่ จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ-สถานการณ์รัสเซียยูเครน
• "ธปท." เปิดเฮียริ่ง แนวนโยบายการบริหารจัดการภัยทุจริต จากการทำธุรกรรมการเงิน หวังแบงก์ ยกระดับมาตรฐานตรวจจับภัยทุจริต เพื่อดูแลผู้ใช้บริการการเงิน ด้านแบงก์กรุงเทพ-สมาคมธนาคารไทย เชื่อเป็นแนวปฏิบัติที่ดี ในการยกระดับมาตรฐานการทั้งระบบการเงิน
• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกจดหมายเปิดผนึกชี้แจงการเคลื่อนไหวของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมา และ 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะสูงกว่าขอบบนของเป้าหมายนโยบายการเงิน โดยระบุว่าปัจจัยที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงกว่าเป้าหมายมาจากแรงกดดันด้านราคา โดยเฉพาะราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่าน มาอยู่ที่ 5.23% สูงกว่ากรอบเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ 1-3% มาจาก 2 ปัจจัยหลักคือ 1.ราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์โลกที่สูงขึ้นมาก ส่งผลให้ราคาน้ำมันก๊าซหุงต้มและค่าไฟฟ้าในประเทศสูงขึ้น โดยเงินเฟ้อเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมา หมวดพลังงานสูงขึ้น 26.27% และ 2.ราคาเนื้อสุกรสูงขึ้นมากจากการเกิดโรคระบาด รวมทั้งราคาอาหารหมวดอื่นๆ สูงขึ้นตามราคาอาหารสัตว์ และปุ๋ยที่สูงขึ้น
• รัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ใช้เงิน 2.5 หมื่นล้านบาท ทิ้งทวนปลายปี เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน รองนายกฯ สุพัฒนพงษ์ นัดประชุมกับกระทรวงการคลัง เตรียมรวบรวมข้อมูลก่อนสรุปมาตรการออกมาเร็วสุดเดือนพ.ย.นี้ สศช. รับเงินกู้เหลือเงินแค่ 100 ล้านบาท อนุมัติไม่ได้แล้ว
• ปภ.เผยยังคงมีพื้นที่น้ำท่วม 27 จังหวัด กทม. เตือน ปชช.นอกคันกั้นน้ำริมเจ้าพระยา นนทบุรีประกาศเพิ่มพื้นที่ประสบอุทกภัยอีก 3 อำเภอ ส่วนอุบลฯ ยังวิกฤตท่วมเขตเศรษฐกิจ นครปฐมอ่วมน้ำหนุนท่าจีนทะลักท่วมปิดถนนทางเข้าออก กทม. รัฐบาลเตรียมงบ 2.3 หมื่นล้านเยียวยา "ชัชชาติ" เสริมกระสอบทรายจุดฟันหลอริมเจ้าพระยา ขณะที่ "บิ๊กตู่" ตอกกลับ รมช.คลัง "สันติ" ถามเยียวยา 50 ล้านยังไม่ถึงมือเกษตรกร เงินหายไปไหน

*หุ้นเด่นวันนี้

• CBG (ฟินันเซีย ไซรัส) "เก็งกำไร" ราคาเป้าหมายจาก IAA Consensus 120.20 บาท คาดกำไรไตรมาส 3/65 อยู่ที่ราว 680-700 ลบ. โต Y-Y จากฐานที่ต่ำในปีก่อน แต่คาดลด Q-Q ตามการอ่อนตัวลงของรายได้ต่างประเทศ ขณะที่ในประเทศยังเติบโตได้ตามมูลค่าตลาด Energy Drink ที่โตเร่งตัว ส่วน Margin คาดทรงตัวเพราะยังมีสต็อกอลูมิเนียมราคาสูง แนวโน้มกำไรน่าจะฟื้นตัวมากขึ้นในไตรมาส 4/65 หลังรับรู้ต้นทุนอลูมิเนียมที่ถูกลง Consensus คาดกำไรปี 2565 Flat Y-Y และ +18% Y-Y ในปี 2566 ตามการฟื้นตัวของรายได้ในประเทศและการส่งออก รวมถึงต้นทุนอลูมิเนียมถูกลง ปัจจุบันเทรดที่ PER2023 เพียง 23 เท่า ต่ำกว่าอดีตที่ 28-30 เท่า
• EA (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 92.00 บาท แนะนำทยอยซื้อสะสม สิ่งดีๆรออยู่ อาทิ NEX ลุ้น Turnaround ในไตรมาส 3/65 (บ. ลูก อีเอ โมบิลิตี โฮลดิง ถืออยู่) กกพ. เตรียมรับซื้อพลังงานทดแทน 5.2 GW มีพลังงานลม 1500 MW และ EA ตัวเก็งอันดับหนึ่ง คาด EA ต้องได้คาร์บอนเครดิตในสาย EV (แบตเตอรี่+ยานยนต์) และพลังงานทดแทน ติดตามการประกาศเกณฑ์ของ อบก. (TGO) เกี่ยวกับราคารับซื้อคาร์บอนเครดิต การตรวจสอบ และรายงาน (MRV: Measure-Report-Verified) Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 เฉลี่ยที่ 8 พัน ลบ. และ 8.7 พัน ลบ. +32%YoY, +8%YoY ตามลำดับ
• BDMS (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 34 บาท กำไรยังเป็นขาขึ้น คาดไตรมาส 3/65 มีกำไรสุทธิ 2.9 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 9.4%qoq และ เพิ่มขึ้น 16.2%yoy