นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วิลล่า คุณาลัย (KUN) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ตลาดบ้านแนวราบที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนก่อนหน้าที่จะเกิดโควิด-19 รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศได้ทยอยฟื้นตัว ล่าสุดบริษัทฯ สามารถทำยอดขาย(พรีเซล) ในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.65) ได้จำนวนทั้งสิ้น 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ทำได้ 1,040 ล้าน โดยยอดพรีเซล ดังกล่าวมาจาก 7 โครงการ ประกอบด้วย คุณาลัย คอร์ทยาร์ด , คุณาลัย บีกินส์ 2 , คุณาลัย พรีม , คุณาลัย จอย ออน 314 , คุณาลัย พาร์โก้ , คุณาลัย เดซี่ และ คุณาลัย นาวาร่า ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 3/65 บริษัทฯ มียอดขายรอการรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) มูลค่า 260 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปี 65
"ยอดขายที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 3 คิดเป็น 65% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี 65 ที่วางไว้ 1,700 ล้านบาท โดยจากข้อมูลของบริษัทฯ ย้อนหลัง 5 ปี จะมียอดขายและยอดโอนในไตรมาส 4 ของทุกปี สูงกว่าทุกไตรมาส จึงมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน โดยโครงการคุณาลัย เดซี่ ที่เริ่มเปิดขายในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 มียอดขายคิดเป็นมูลค่า 130 ล้านบาท ขณะที่โครงการคุณาลัย นาวาร่า เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา มีการเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการ แต่ได้กระแสตอบรับเกิดคาด โดยจะเห็นได้จากยอดจองซื้อที่แตะระดับมูลค่า 40 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวม 3.5 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเร่งงานก่อสร้างเพื่อให้โครงการมีความพร้อมในการเปิดขายอย่างเป็นทางการ ภายในไตรมาสที่ 2/66
นอกจากนี้ประเมินทิศทางสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายปี 65 ภาพรวมอสังหาทรัพย์มีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากสภาวะเศรษฐกิจในประเทศช่วงไตรมาสที่ 4/65 ที่เห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่คาดว่าจะแตะระดับอยู่ที่ 8-10 ล้านคน จะทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นตามลำดับ ขณะที่มาตรการผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับการดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) และมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและค่าจดจำนองที่จะหมดพร้อมกันในปลายปีนี้ รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับขึ้นไปจนถึงปีหน้า จะเป็นตัวเร่งการตัดสินใจซื้อบ้านของผู้บริโภคให้เร็วขึ้น และจากปัจจัยดังกล่าวมองว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในไตรมาสสุดท้ายนี้จะมีมากขึ้น
"มาตรการผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับการดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) และมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนอง ที่กำลังจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.65 จะเป็นการกระตุ้นให้กับผู้ที่วางแผนซื้อบ้านให้ตัดสินใจซื้อบ้านเร็วขึ้น เพื่อให้ได้รับมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐที่กำลังจะสิ้นสุดในปีนี้ สำหรับเรื่องการอัตราดอกเบี้ยที่กำลังเป็นขาขึ้น จะส่งผลกระทบกับลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อโดยจะมีภาระค่าผ่อนรายงวดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยทุก 0.25% ต่อปี จะเพิ่มการผ่อนชำระค่างวดบ้านประมาณ 2-5% จากค่างวดเดิม ส่งผลให้ธนาคารจะเข้มงวดมากขึ้นในการพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระคืน แต่ทั้งนี้ผลกระทบดังกล่าวจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร" นางประวีรัตน์ กล่าว
อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญสำหรับลูกค้าโครงการของ KUN มอบโชค 5 ชั้น ได้แก่ โชคชั้นที่ 1 ส่วนลดราคาทุกหลังหรือฟรีสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท , โชคชั้นที่ 2 ฟรีค่าโอน, โชคชั้นที่ 3 ฟรีค่าจดจำนอง, โชคชั้นที่ 4 ฟรีแอร์ และโชคชั้นที่ 5 ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยแคมเปญนี้จะให้สำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านในโครงการของ KUN และโอนบ้านภายในสิ้น