น.ส.ภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลครั้งแรกของบริษัทฯ ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ของธนาคารกรุงไทย ประสบความสำเร็จผู้ลงทุนตอบรับจองซื้อจำนวนมากและเต็มจำนวน 3,000 ล้านบาท ภายในเวลา 3 นาที 18 วินาที ของการเปิดซื้อขายวันแรก ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ของวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนที่มีต่อบริษัท ด้วยศักยภาพและโอกาสการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจ จากการมุ่งสู่กลุ่มบริษัทนวัตกรรมสีเขียว ตอบโจทย์การเติบโตอย่างยั่งยืน
โดยหุ้นกู้ดิจิทัลบางจาก เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 4 ปี อัตราผลตอบแทน 3.60% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A- แนวโน้ม "คงที่" (Stable) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2565
"บริษัทฯ ขอบคุณผู้ลงทุนที่ให้ความสนใจและให้ความไว้วางใจจองซื้อหุ้นกู้ดิจิทัลบางจากในครั้งนี้ รวมถึงขอบคุณธนาคารกรุงไทย ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ที่ทำให้การจองซื้อราบรื่นและประสบความสำเร็จ ทำให้ผู้ลงทุนเข้าถึงการลงทุนได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและราคาน้ำมันที่มีความผันผวน พร้อมขยายการลงทุนโดยรักษาสมดุลระหว่างการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ทุกภาคส่วนต่อไป"
นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า ความสำเร็จจากการเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลบางจาก บนแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ครั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจากผู้ลงทุนมีความเชื่อมั่นในธุรกิจของบางจาก ซึ่งเป็นธุรกิจพลังงานชั้นนำ ที่มีโอกาสและศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีปัจจัยสนับสนุนจากช่องทางการลงทุนที่ตอบโจทย์ ผ่านแอปฯ "เป๋าตัง" ที่ทุกคนคุ้นเคย ใช้งานง่าย สามารถซื้อขายหุ้นกู้ได้สะดวก รวดเร็ว แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งแสดงข้อมูลการถือครองหุ้นกู้ ราคาซื้อขาย ครบจบในที่เดียว ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ทำให้มีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้
โดยผู้ลงทุนหุ้นกู้ดิจิทัลบางจากกระจายตัวในทุกจังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 66% และต่างจังหวัด 34% กระจายตัวทุกช่วงอายุระหว่าง 20-90 ปี โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานอายุระหว่าง 20-40 ปี สัดส่วนสูงถึง 28% และกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป มีสัดส่วน 25% ตอกย้ำการเป็นช่องทางที่ตอบโจทย์การลงทุนอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม
"ธนาคารขอขอบคุณบางจากฯ ที่ให้โอกาสธนาคารได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในครั้งนี้ โดยธนาคารมุ่งมั่นนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมรูปแบบใหม่มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง บนช่องทางดิจิทัลที่เข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก และปลอดภัย โดยเฉพาะแอป"เป๋าตัง" ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยบริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย (Infinitas by Krungthai) ให้เป็น Thailand Open Digital Platform เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทุกกลุ่มใช้บริการได้ แม้ไม่มีบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงไทย พร้อมเดินหน้าตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ทั้งการลดความเหลื่อมล้ำ การนำนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ความยั่งยืน"